“บาวเวอร์” ดันเอเชียตลาดหลัก รุกคอนซูเมอร์-ดันไทยฮับเออีซี
บาวเวอร์เอเชียเพิ่มพอร์ตธุรกิจในไทย หวังดันให้ไทยเป็นฮับอาเซียน และดันเอเชียสู่เป้าหมายสัดส่วนรายได้เป็น 40% ภายใน 3 ปีจากนี้ ปีนี้ลุยเพิ่มกลุ่มคอนซูเมอร์ เล็งนำเข้าเครื่องมือแพทย์-เปิดโรงเรียนสอนการโรงแรม
นายคูด้า ฮาร์ลาท รองประธานกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท บาวเวอร์ เอเชีย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า บริษัทแม่มีนโยบายที่จะขยายตลาดเอเชียมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่และมีแนวโน้มการเติบโตดี อีกทั้งประชากรมีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเอเชียเป็น 40% ภายใน 3 ปีนี้ จากเดิมที่ขณะนี้มีสัดส่วนรายได้จากเอเชียประมาณ 5-7% เท่านั้น
โดยในอเชียนี้มีการตั้งสำนักงานแล้วใน 3 ประเทศหลัก คือ ศรีลังกา สิงคโปร์ และไทย ซึ่งในไทยได้จัดตั้งบริษัท ไทยลีดเดอร์โกลบอล เทรด จำกัด ขึ้นมาเมื่อประมาณ 3-4 ปีมาแล้ว โดยเริ่มต้นการนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแว่นตาก่อนเท่านั้น มี 2 แบรนด์ เช่น โพล่าร์ โดยมีเป้าหมายที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางหรือฮับในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มเออีซีที่จะเกิดขึ้นปี 2558 โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลางการนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไปต่างประเทศในเออีซีด้วยกัน และยังใช้ไทยเป็นฐานในการสนับสนุนกิจการเอสเอ็มอีของไทยทั้งหลายในการขยายตลาดต่างประเทศด้วย
เบื้องต้นนี้สัดส่วนการนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายในไทยประมาณ 80% และสัดส่วนส่งออกสินค้าไทย 20%
แผนรุกตลาดปีนี้ในไทยคือ การขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มคอนซูเมอร์ จากเดิมที่ผ่านมาในไทยมีเพียงธุรกิจจำหน่ายแว่นตากันแดดเท่านั้น โดยกลุ่มคอนซูเมอร์เริ่มนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายแล้ว 3 แบรนด์ คือ มูสลี่อาหารเช้าแรนด์สวิคกี้ จากสวิตเซอร์แลนด์ ชาพร้อมชงรสผลไม้แบรนด์มาเลสน่า และช็อกโกแลตบาร์แบรนด์สวิสคอนฟิซ่า ซึ่งทั้งหมดจับกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมียม
นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตจากทาง อย.อีก 5 รายการ
นอกจากนั้นแล้วยังมีแผนที่จะขยายกลุ่มธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้นอีกเพื่อสร้างความแข็งแรงด้วย คือ กลุ่มเครื่องมือแพทย์ และกลุ่มโรงเรียนสอนการโรงแรม ซึ่งกลุ่มเครื่องมือแพทย์นี้อยู่ระหว่าางการดำเนินงานจดทะเบียนแบรนด์ PEARLTEC หรือเครื่องช่วยกำหนดตำแหน่งของผู้ป่วย โดยจะมีการนำเสนอกับโรงพยาบาลต่างๆ เช่น บำรุงราษฎร์ กรุงเทพ รามา ศิริราช เป็นต้น
ส่วนโรงเรียนสอนการโรงแรมนั้นเป็นไปได้ทั้งการตั้งศูนย์อบรมขึ้นมาแล้วนำคอร์สจากต่างประเทศมาอบรมกับการนำผู้สนใจไปอบรมที่ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังมีการขยายธุรกิจต่อเนื่องโดยเฉพาะสินค้าคอนซูเมอร์ หากตลาดเอเชียหรือตลาดไทยมีความต้องการสินค้าประเภทใดก็จะนำเข้ามาทำตลาดทันที
นายคูด้า กล่าวว่า จากแผนรุกธุรกิจ ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมในไทยไว้ที่ 30-40 ล้านบาท และใช้งบตลาดรวมทั้งหมด 20 ล้านบาท จากปีที่แล้วมีรายได้รวมประมาณ 20 ล้านบาท