ซูต่ง ติง ผู้คุมความมั่งคั่งจีน
"นายซูต่ง ติง" ผู้รับผิดชอบกองทุนบริหารความมั่งคั่งของจีน และนิตยสารฟอร์บส์จัดให้ติดอันดับ 36 ผู้ทรงอิทธิพลโลก อีกด้วย
"นายซูต่ง ติง" ผู้รับผิดชอบกองทุนบริหารความมั่งคั่งของจีน และนิตยสารฟอร์บส์จัดให้ติดอันดับ 36 ผู้ทรงอิทธิพลโลก อีกด้วยในรายชื่อบุคคลผู้ทรงอิทธิพลโลก ที่นิตยสารฟอร์บส์จัดอันดับ และเปิดเผยออก มาเมื่อเร็วๆ นี้ นอกจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่ติดอยู่ในลำดับ 3 ของบุคคลที่มีอิทธิพลมากสุดในโลกแล้ว ยังมีชื่อ "นายซูต่ง ติง" ผู้รับผิดชอบกองทุนบริหารความมั่งคั่งของจีน ติดอยู่ด้วยในอันดับที่ 36
ฟอร์บส์ ระบุว่า นายติง ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริหาร ไชน่า อินเวสต์เมนต์ คอร์ป (ซีไอซี) เป็นผู้นำในกองทุนบริหารความมั่งคั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร นับถึงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา มีมูลค่ามากถึง 575,200 ล้านดอลลาร์
การทำงานของนายติง วัย 53 ปี ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน ที่จะต้องทำให้การลงทุนในต่างประเทศของซีไอซี ได้รับผลตอบแทนในระดับสูงกลับคืนมา ซึ่งการลงทุนที่ว่านี้ รวมถึง การถือหุ้นในมอร์แกน สแตนเลย์ และแบล็คสโตน กรุ๊ปส์ 2 ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ บริษัทเออีเอส ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน และสนามบินฮีธโรว์ ของอังกฤษ
ทั้งนี้ นายติง นับเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก โดยเขาทำงานอยู่ในกระทรวงการคลังจีน มาเกือบทั้งชีวิต สำหรับการศึกษาในระดับปริญญาเอก ด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยจีน ที่ดำเนินงานภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงการคลัง
เขาขึ้นมาเป็นประธานบริหารซีไอซี สืบต่อจากนายลั๋วะ จื่อเว่ย ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีคลัง เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกว่าที่นายติง จะได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้นั้น ซีไอซีก็ต้องอยู่ในตำแหน่งที่ว่างเว้นหัวหน้ามานานถึง 3 เดือน ซึ่งภาวะสุญญากาศนี้ ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับความขัดแย้งภายในกลุ่มแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์ ที่มีหน้าที่ตัดสินใจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในด้านต่างๆ
ก่อนหน้าที่จะมาอยู่ในตำแหน่งที่ได้ชื่อว่า มีความสำคัญอย่างมากอีกตำแหน่งหนึ่งของประเทศนั้น นายติงเป็นรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และก่อนหน้านั้น เขาก็เป็นบุคคลที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบรรดาแกนนำของจีน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักปฏิรูป