เตียง ฮิว คิงจากเด็กกรีดยางสู่เศรษฐีป่าไม้ 

เตียง ฮิว คิง มหาเศรษฐีป่าไม้ ชาวมาเลเซีย ล่าสุดนิตยสารแคปิตอลลิสต์ ขนานนามเขาว่าเป็น "หนึ่งในสิบนักธุรกิจที่รวยที่สุดของมาเลเซีย"

เตียง ฮิว คิง มหาเศรษฐีป่าไม้ ชาวมาเลเซีย ล่าสุดนิตยสารแคปิตอลลิสต์ ขนานนามเขาว่าเป็น "หนึ่งในสิบนักธุรกิจที่รวยที่สุดของมาเลเซีย"

บริษัทโอเรกอน กรุ๊ป ของมหาเศรษฐีป่าไม้ "นายเตียง ฮิว คิง" วัย 78 ปี ทำธุรกิจป่าไม้และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในนิวซีแลนด์ รวมทั้งออกแบบและผลิตภาชนะพลาสติกที่ใช้ในครัว ขณะนี้กำลังลงทุนขนาดใหญ่ในการสำรวจน้ำมันและก๊าซในประเทศจีน มาเลเซีย และพม่า ผ่านบริษัท "อาร์เอช ปิโตรก๊าซ" ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ที่เขาซื้อหุ้นเพิ่มจนครอบครองหุ้นบริษัทถึง 40% ทั้งยังเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ภาษาจีน 7 ฉบับ นิตยสาร 30 ฉบับ หุ้นในบริษัท "ไชนีส มีเดีย อินเตอร์เนชันแนล" ของเขาเพิ่มขึ้น 40% ในปีที่ผ่านมาจากต้นทุนการพิมพ์ต่ำแต่รายได้จากโฆษณาสูง

เตียง ฮิว คิง ซึ่งฟอร์บส์ จัดให้มีฐานะร่ำรวยเป็นอันดับ 831 ของโลก ด้วยสินทรัพย์สุทธิ 1.8 พันล้านดอลลาร์ เกิดในครอบครัวยากจนในรัฐซาราวัก มาเลเซีย แม้ต้องกรีดยางพาราในวัยเยาว์แต่เขาก็กระหายใคร่รู้ หลังจบชั้นมัธยมเขาศึกษาทางไกลกับมหาวิทยาลัยจีน ที่ทราบว่าไม่มีข้อจำกัดในการเรียน

เตียงเริ่มต้นชีวิตทำงานในบริษัทป่าไม้ของลุง ซึ่งช่วยวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาธุรกิจในอนาคต ลุงร้องขอให้เขามาช่วยงานในช่วงแรกของธุรกิจ ด้วยความฉลาดและขยันเป็นพิเศษ ทำให้เขามีส่วนช่วยเหลือกิจการของลุงอย่างมาก

ปี 2519 นายเตียงร่วมกับพี่น้องบางคนก่อตั้งบริษัท "ริมบูนัน ฮิจาอู" ที่มีชื่อเสียงมั่นคงและผงาดขึ้นมาในฐานะบรรษัทข้ามชาติที่น่ายกย่อง ช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา เตียงทำงานในระดับโลกเพื่อสร้างธุรกิจการศึกษาที่หลากหลายครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก ทั้งในมาเลเซีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย แคนาดา สหรัฐ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ รัสเซีย ปาปัว นิวกินี อิเควตอเรียล กินี บราซิล และบริติช กายอานา

เขายังลงทุนในเซี่ยงไฮ้ ต้าเหลียน ฮาบิน ต้าตง และกวางโจวในจีน นอกเหนือจากการทำไม้และส่งออก เตียงยังขยายธุรกิจครอบคลุมด้านการเงิน สื่อ ไอที เมืองแร่ ประมง ปาล์มน้ำมัน ปลูกป่าทดแทน ค้าขาย และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ปัจจุบัน "ริมบูนัน ฮิจาอู กรุ๊ป" ภายใต้การนำของเตียง ค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นผู้ผลิตและส่งออกไม้อัดรายใหญ่สุดรายหนึ่งของมาเลเซีย บริษัทลูกสามแห่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย ได้แก่ "ซูบู ติอาซา" "จายา ติอาซา" และ "ซิน จิว มีเดีย คอร์ปอเรชัน" ในฮ่องกง "หมิง เปา กรุ๊ป" เข้าจดทะเบียนสำเร็จแล้ว ล่าสุดนิตยสารแคปิตอลลิสต์ ขนานนามเขาว่าเป็น "หนึ่งในสิบนักธุรกิจที่รวยที่สุดของมาเลเซีย"