นานาชาติปลดล็อกวีซ่ารับนักเที่ยวจีน 

ประเทศต่างๆ หวังดึงเงินหยวนเข้าประเทศมากขึ้น ด้วยการลดขั้นตอนขอวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากที่เดินทางมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง

ประเทศต่างๆ หวังดึงเงินหยวนเข้าประเทศมากขึ้น ด้วยการลดขั้นตอนขอวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากที่เดินทางมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง

ประเทศต่างๆ รวมถึง สหรัฐ และสหราชอาณาจักร กำลังพิจารณาที่จะดึงเม็ดเงินใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนให้มากขึ้น ด้วยการทำให้กระบวนการขอวีซ่าสำหรับนักเดินทางเหล่านี้ทำได้ง่ายดายขึ้น

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ในการเดินทางไปอังกฤษ เมื่อช่วงต้นปีนี้นั้น นายหวัง เจี้ยนหลิน มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยสุดของจีน ไม่ต้องไปยืนต่อแถวด้านหน้าสถานทูตอังกฤษ ในกรุงปักกิ่งแต่อย่างใด เพราะบริการวีซ่าอังกฤษเดินทางมาหาเขาถึงที่ เพื่อรับใบสมัคร ถ่ายรูป และพิมพ์ลายนิ้วมือ ให้เสร็จสรรพ

บริการดังกล่าวได้รับผลดีเกินคาด เพราะนายหวัง ประธานกรรมการบริหารต้าเหลียน วันดา กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์รายใหญ่สุดของจีน ใช้จ่ายเงินอย่างเต็มที่ในการเดินทางไปอังกฤษครั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อกิจการซันซีคเกอร์ บริษัทต่อเรือยอทช์ วงเงิน 300 ล้านปอนด์ และยังทุ่มเงิน 700 ล้านปอนด์ เข้าลงทุนสร้างอาคารที่พักอาศัยในกรุงลอนดอนด้วย

แม้การใช้จ่ายของนายหวัง จะเป็นกรณียกเว้นเมื่อเทียบกับการใช้จ่ายทั่วไปของนักเดินทางจีน แต่โดยสรุปแล้ว ในปัจจุบัน หลายประเทศเปิดกว้างอย่างมากเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากแดนมังกร ที่แซงหน้านักท่องเที่ยวเยอรมนี และสหรัฐ ขึ้นมาเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายในต่างแดนมากที่สุด

ข้อมูลจากเวิลด์ เพย์ บริษัทบริหารจัดการการชำระเงินอังกฤษ แสดงให้เห็นว่า เมื่อปีที่แล้ว ชาวจีนราว 83 ล้านคน ที่เดินทางไปท่องเที่ยวนอกประเทศ ใช้จ่ายเงินไปมากกว่า 5,000 ดอลลาร์ต่อการเดินทางหนึ่งครั้ง

เวิลด์ เพย์ ชี้ว่า นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นนักช้อประดับโลก มีสัดส่วนการซื้อราว 1 ใน 4 ของยอดขายโดยรวมในสินค้าหรูหราทั่วโลก

ในความพยายามที่จะดึงดูดเม็ดเงินจากนักช้อปกลุ่มนี้ รัฐบาลหลายประเทศตัดสินใจที่จะเปลี่ยนนโยบายของตัวเองเสียใหม่ ซึ่งแม้บริการทำวีซ่าแบบวีไอพีสำหรับนักธุรกิจอย่างนายหวัง จะไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน แต่กรุ๊ปทัวร์จีนบางกลุ่ม จะได้รับอนุญาตให้ยื่นขอวีซ่าเข้าอังกฤษ แบบเดียวกับที่ยื่นขอวีซ่าเชงเก้นของยุโรป ซึ่งจะทำให้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศยุโรปอื่นๆ อีก 25 ประเทศได้

การปรับเปลี่ยนดังกล่าวช่วยให้กลุ่มทัวร์ใช้เวลาในการขอวีซ่าน้อยลง และทำให้อังกฤษสามารถดึงเม็ดเงินหยวนเข้าประเทศได้มากขึ้น โดยในปี 2555 สหราชอาณาจักรมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเพียง 180,000 คนเท่านั้น เทียบกับจำนวน 1.2 ล้านคนที่เดินทางไปยังฝรั่งเศส ซึ่งใช้วีซ่าเชงเก้น

สหรัฐเองก็มีการลดขั้นตอนการขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากจีนเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ ชาวจีนที่ต้องการนัดสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่า จะต้องโทรไปยังหมายเลขที่กำหนดไว้เฉพาะ และเป็นหมายเลขที่ต้องใช้บัตรโทรศัพท์พิเศษด้วย ที่บ่อยครั้งเงินในบัตรจะหมดขณะที่ต้องถือสายรอเจ้าหน้าที่ แต่ในปัจจุบัน ชาวจีนสามารถทำการนัดทางออนไลน์ได้ ทั้งสหรัฐยังจัดหาเจ้าหน้าที่เพื่อให้บริการวีซ่าแก่นักเดินทางจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในปีที่แล้ว มีการอนุมัติวีซ่าให้ชาวจีนมากถึง 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 2 ปีที่แล้วมากถึง 80%

จุดหมายปลายทางบางแห่ง ที่ไม่เข้มงวดในเรื่องขอวีซ่า ต่างได้รับผลประโยชน์จากกระแสการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนกันอย่างทั่วหน้า โดยเกาะเจจู ของเกาหลีใต้ อนุญาตให้พลเมืองจีนเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่านับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา และเมื่อปีที่แล้ว เกาะเจจูมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 2 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 1.68 ล้านคน

นักท่องเที่ยวจีน ยังเป็นกลุ่มทำรายได้หลักให้กับมัลดีฟส์ด้วย เช่นเดียวกับมอริเชียส ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียอีกชาติหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเมื่อปี 2555 จำนวน 20,000 คน หรือเพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2554 ถึง 77%

แม้แต่รัฐบาลจีนเองก็ส่งสัญญาณถึงการผ่อนคลายในเรื่องการอนุมัติวีซ่า หลังจากที่นักเดินทางต่างชาติต้องเจอกับความยากลำบากในการขอวีซ่าเข้าจีนในช่วงที่ผ่านมา ในปีนี้ จีนได้เปิดทางให้นักท่องเที่ยวจาก 45 ประเทศ ที่เดินทางมาต่อเครื่องบินในจีน สามารถอยู่ในกรุงปักกิ่งได้โดยไม่ต้องมีวีซ่านาน 72 ชั่วโมง