ประธานการลงทุนใหม่แดนอิเหนา เจอของแข็งพิษเศรษฐกิจ
มินทรา ซิเรการ์ ประธานการลงทุนคนใหม่แดนอิเหนา รับศึกหนัก เร่งกระตุ้นความเชื่อมั่น ท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน-ชะลอตัว
ประธานด้านการลงทุนคนใหม่ของอินโดนีเซียมีงานหนักในการกระตุ้นความเชื่อมั่นในช่วงที่เกิดความผันผวนในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงข้อสงสัยที่ว่าบรรดานักลงทุนหวาดหวั่นกับบรรยากาศชาตินิยมทางเศรษฐกิจและถูกครอบงำโดยภาวะชะงักงันก่อนการเลือกตั้งในการอัดฉีดเงินเพิ่มเข้าไปในประเทศมากเกินไปหรือไม่ (ไม่แน่ใจ)
นายมหินทรา ซิเรการ์ วัย 49 ปี นักวิชาการผู้มากประสบการณ์และอดีตนักการทูตชาวอินโดนีเซีย ได้นั่งเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานการลงทุนคนที่สามในรอบ 3 ปี ต่อจากนายชาติบ บาสรี ที่ถูกแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายซิเรการ์เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในสมัยที่นายบาสรีเป็นเจ้ากระทรวง และก่อนหน้านั้นยังเขาเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงประสานกิจการเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เขายังเคยเป็นตัวแทนส่วนตัวของประธานาธิบดีสุสิโล บัมบัง ยุโดโยโน ในการประชุมสุดผู้นำจี20 อีกด้วย
การเลื่อนให้เขาขึ้นมานั่งในตำแหน่งที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองโดยนายยุโดโยโนถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก่อนและยังได้รับคำชมจากภาคธุรกิจ โดยนายแอนดรูว์ ไวท์ กรรมการผู้จัดการของหอการค้าอเมริกันแห่งอินโดนีเซีย ยกให้นายซิเรการ์เป็น ตัวเลือกที่โดดเด่น นักคิดที่ปฏิบัติได้จริง และนักเศรษฐศาสตร์ผู้หลักแหลมและมากประสบการณ์
นายซิเรการ์จะต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ที่ประธานคนก่อนหน้าเขาก็ยังไม่เคยพบ อินโดนีเซียซึ่งมีกลุ่มชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เคยเป็นแหล่งดึงดูดสำหรับบรรดานักลงทุนเมื่อช่วง 1 ปีก่อน โดยรายได้ที่สูงขึ้นกระตุ้นให้มีการซื้อรถ มอเตอร์ไซค์ และสมาร์ทโฟน รวมถึงมีความคาดหวังว่าจะมีการท่องเที่ยวในต่างประเทศและออกบัตรเครดิต
ปัจจุบัน การเติบโตของอินโดนีเซียเริ่มชะลอตัวลง การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า นับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่การพึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่ป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2551 ซึ่งได้เปลี่ยนมาเป็นความซบเซา เนื่องจากความต้องการจากจีนและอินเดียชะลอตัวลง ควบคู่กับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้เกิดบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเพิ่มมากขึ้น