ผบ.ทบ.เตือนพวกจ้อชี้นำคดีเผาเมืองทำสังคมขัดแย้งเพิ่ม
รองโฆษก ทบ. เผย "ประยุทธ์" ย้ำทหารไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ยันปราบเผาเมืองตามกฏหมาย เตือนพวกส่อชี้นำคดีทำสังคมขัดแย้งเพิ่ม หวังคดีคืบหน้าโดยเร็ว -แย้มพาทหารทัวร์อาเซียน - เผยกำหนดการประชุมร่วมผู้บัญชาการทหารบกแปซิฟิกที่นิวซีแลนด์ 7 - 12 ก.ย.
วันนี้ (6 ก.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 17.30 น.พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ประจำเดือนกันยายนที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมผบ.ทบ.กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีที่เกิดขึ้นในภารกิจกการรักษาความสงบเรียบร้อยจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองปี 53 ซึ่งขณะนี้คดียังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของศาล โดยที่ผ่านมากองทัพบกเคารพในหลักกฎหมายและดำเนินการทุกอย่างภายใต้กระบวนการยุติธรรม ขอให้สังคมเข้าใจว่ากองทัพบกอยู่ในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับผู้สูญเสีย มิใช่ผู้ขัดแย้งกับใคร
“ยืนยันว่า กำลังพลของเราปฏิบัติตามกฎหมาย และเห็นใจประชาชนทุกคนที่บาดเจ็บหรือสูญเสียไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น ดังนั้นในระหว่างคดีอยู่ในขั้นการไต่สวน และการดำเนินกระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด ทุกฝ่ายควรระมัดระวังในการให้ข่าวเผยแพร่ข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับคดี เพราะอาจจะเป็นการชี้นำหรือสร้างความสับสนให้กับสังคมยิ่งขึ้น และเรื่องที่เกิดขึ้นจะหาทางยุติไม่ได้ ยิ่งจะสร้างความขัดแย้งในสังคมเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญทุกข้อมูลส่งผลกระทบต่อจิตใจของครอบครัวของทหารที่บาดเจ็บ เสียชีวิต และครอบครัวของประชาชนที่สูญเสีย รวมถึงส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในหลายคดีที่ทหารเป็นผู้สูญเสียได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กองทัพบกจึงคาดหวังว่า คดีเหล่านี้จะมีความคืบหน้าเข้าสู่กระบวนการไต่สวนโดยเร็ว เพราะหากเกิดความล่าช้าจะกระทบต่อจิตใจของครอบครัวทหารที่เสียชีวิต และกำลังพลโดยรวม”พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว
รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า ในที่ประชุมผบ.ทบ.ได้กำหนดทิศทางการพัฒนากองทัพบกในปีงบประมาณ 2557 โดยให้ทุกสายงานพิจารณานำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในกระบวนการทำงานหรือพัฒนาหน่วยงานเพื่อให้มีความทันสมัยทั้งด้านบุคลากร เครื่องมือ สถานที่ มุ่งสู่การเป็นกองทัพที่ทันสมัย มีมาตรฐานในระดับสากลและเป็นที่ยอมรับของมิตรประเทศ ทั้งนี้ตลอดการดำรงตำแหน่งของผบ.ทบ.ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาและขับเคลื่อนกองทัพบกในแต่ละปีมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2554 “เป็นปีแห่งการพัฒนาการของกองทัพบก” ต่อมาในปี 55 ได้กำหนดให้“เป็นปีแห่งการพัฒนาบุคลากรของกองทัพบก” และในปี 56 “เป็นปีแห่งการพัฒนาการบริหารจัดการและการฝึกที่มุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์”
รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า นอกจากนี้ผบ.ทบ.ยังได้มอบนโยบายการจัดกิจกรรมนำกำลังพลในทุกระดับเดินทางไปศึกษาดูงาน และทัศนศึกษาในต่างประเทศ เพื่อเรียนรู้ภูมิประเทศ ศิลปวัฒนธรรม ความเจริญก้าวหน้าของประเทศต่างๆ เป็นการเพิ่มพูนความรู้ และประสบการณ์จะได้นำสิ่งที่เห็นมาพัฒนาและปรับใช้ในการทำงาน โดยเฉพาะการเดินทางไปเปิดโลกทัศน์ในประชาคมอาเซียน ซึ่งขณะนี้ หลายหน่วยงานของกองทัพบก โดยเฉพาะในระดับกองทัพภาค ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวแล้วในหลายประเทศ อาทิ เวียตนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน เป็นต้น
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า จากเหตุท่อส่งน้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ซึ่งทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวในการเก็บกู้และขจัดคราบน้ำมัน สำหรับกองทัพบกได้ส่งกองร้อยช่วยเหลือประชาชน กองทัพภาคที่ 1 จำนวน 100 นาย และพร้อมชุดปฏิบัติการเรือยนต์ขนส่งขนาด 90 ฟุตจากกรมการขนส่งทหารบก เข้าช่วยเก็บกู้ คัดแยก และซับคราบน้ำมันรวมถึงฟื้นฟูสภาพพื้นที่โดยรอบจนเหตุการณ์ได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะนี้ กำลังพลพร้อมเครื่องมือได้เดินทางกลับที่ตั้งหน่วยแล้ว โดยใช้เวลาในการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่ 2-26 สิงหาคมที่ผ่านมา รวม 24 วัน
รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า ผบ.ทบ.มีกำหนดการเดินทางร่วมการประชุม ผู้บัญชาการทหารบกภูมิภาคแปซิฟิก ครั้งที่ 8 ณ เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 7-12 กันยายนนี้ เพื่อให้ผู้บัญชาการทหารบกในภูมิภาคแปซิฟิก ได้มีโอกาสทำความรู้จักคุ้นเคย แลกเปลี่ยนข่าวสารและข้อคิดเห็น รวมทั้งรับทราบแนวทางในการพัฒนากองทัพของแต่ละประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้พูดคุยในลักษณะทวิภาคี และแบบพหุภาคี โดยปีนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยมีผบ.ทบ.และผู้แทนทหารบกประเทศต่างๆ เข้าร่วมการประชุมทั้งหมด 29 ประเทศ โดยมีหัวข้อการประชุม คือ ความร่วมมือระหว่างกันในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพในศตวรรษที่ 21 ภายใต้บริบทองค์การสหประชาชาติ ประกอบด้วย 3 ประเด็นย่อย คือ 1.การเสริมสร้างความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ 2. ความท้าทายสำหรับกำลังทางบกในการสนับสนุนการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ 3.ภารกิจของกองกำลังสหประชาชาติในการคุ้มครองพลเรือนและดูแลกำลังพล สำหรับการประชุมแบบทวิภาคี ทางพล.อ.ประยุทธ์ จะได้พบปะและร่วมหารือกับผบ.ทบ.มิตรประเทศ จำนวน 8 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา สหรัฐอเมริกา และ ชิลี