JWวางกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน
“วิวรรธน์ เหมมณฑารพ” เผยครึ่งปีหลังวางเป้า “ปัญจวัฒนาพลาสติก” จะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน พัฒนาตลาดใหม่ ชูจุดเด่นการเป็น World Class Manufacturing และทีมวิจัยพัฒนาในการสร้างนวัตกรรม มูลค่าเพิ่ม เพื่อความแตกต่างให้แก่ลูกค้า หลังได้โมเดลใหม่ด้านยานยนต์ เตรียมขยายตลาดน้ำมันหล่อลื่นที่ประเทศจีน ส่วนตลาดอาเซียนรอความชัดเจนด้านนโยบายจากลูกค้า วางเป้ารายได้ปีนี้โต 6-8% ส่วนผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้โชว์กำไรสุทธิ 96.7 ล้านบาท รับยอดขายเพิ่มขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรม
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยถึงแผนงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ว่า PJW จะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน โดยการพัฒนาตลาด และผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งบริษัทฯ มีจุดแข็งด้านทีมวิจัยและพัฒนาในการสร้างความแตกต่าง และมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า โดยเตรียมความพร้อมบุคลากรทั้งในด้านเทคนิคการผลิต (Production Technician) และความรู้ความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Cross Cultural) เพื่อเพิ่มศักยภาพ รองรับการแข่งขันที่จะมีมากขึ้น
“ครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะระมัดระวังด้านการลงทุนมากขึ้นเพื่อรอดูทิศทางภาวะเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ของรัฐบาล รวมถึงปริมาณความต้องการของลูกค้า หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มีการลงทุนพัฒนาทั้งในด้านอาคารโรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์ บุคลากร โดยขยายกำลังการผลิตใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยยังคงมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งใน และต่างประเทศ ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับออเดอร์ใหม่ด้านยานยนต์ ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ กำหนดออกสู่ตลาดช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้ที่ 6-8% ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยตั้งเป้าว่าจะรักษาอัตราการเติบโตที่ปีละ 20% เนื่องจากผลของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเติบโตจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย โดยปีหน้าคาดว่าจะรักษาระดับอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 10-15% ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับทิศทางภาวะเศรษฐกิจในปีหน้า”
โดย PJW มีจุดเด่นด้านการเป็น World Class Manufacturing ประสิทธิภาพการผลิตและความสามารถการบริหารต้นทุน (Production Efficiency for Better Cost Competitiveness) นวัตกรรมและการสร้างมูลค่า (Innovation & Value Creation) ซึ่งจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าด้วยประสิทธิภาพการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่ง รวมถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ปี 2558
“อนาคตคาดว่าจะมีออเดอร์ใหม่จากลูกค้าเข้ามามากขึ้น รับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภค นม เคมี และยานยนต์ ขณะที่ตลาดอาเซียนยังรอความชัดเจนด้านนโยบายจากลูกค้า ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของต่างประเทศปัจจุบันเรามีโรงงานทำบรรจุภัณฑ์ด้านน้ำมันหล่อลื่นแล้วที่ประเทศจีน ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตามภาวะอุตสาหกรรม โดยได้มีแผนการขยายตลาด และกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ในส่วนแผนการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในประเทศจีนจะมีความชัดเจนช่วงปลายปีนี้” นายวิวรรธน์กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุด ไตรมาส 2/2556 มีกำไรสุทธิ 46.8 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 539.9 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 96.7 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,096.3 ล้านบาท สาเหตุที่ผลประกอบการที่เติบโตขึ้นนี้ เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรม และภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุสินค้าอุปโภคบริโภค และเคมีเกษตรที่ยอดขายเติบโตขึ้น ขณะที่ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ยอดขายชะลอลงตามปริมาณความต้องการอุตสาหกรรมที่เริ่มหดตัวลง ซึ่งเป็นผลจากนโยบายรถคันแรก ขณะที่บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพสินค้า และการบริการเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ดียิ่งๆ ขึ้น สู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงตลอดไป