“มิสเตอร์บัน” สปีดสองเท่า ทุนบันเทิง “ดีเอ็นเอ” ฮุบ
“มิสเตอร์บัน” ได้น้ำเลี้ยงดี หลัง “ดีเอ็นเอ” ทุนบันเทิงเข้าฮุบหุ้น 100% วางแผน 3 ปีขยายเต็มที่สปีดสองเท่า ปี 59 ทะลุ 150 สาขา ยอดขาย 702 ล้านบาท จ้องรุกอาเซียน ด้านดีเอ็นเอกำเงิน 250 ล้านบาทเตรียมเทกโอเวอร์ต่อ
นายอนุสรณ์ ตันยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัน จำกัด ผู้ประกอบการขนมปังอบร้านมิสเตอร์บันของคนไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ภายหลังจากที่ได้ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) เข้ามาเทกโอเวอร์ด้วยการถือหุ้นใหญ่ 100% เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นและขยายตัวได้เร็วขึ้นอย่างน้อยสองเท่าในแง่จำนวนสาขา
ทั้งนี้ แผนธุรกิจ 3 ปีจากนี้ไป (2557-2559) คาดว่าธุรกิจจะเติบโตมากขึ้น โดยในปี 2557 เพิ่มสาขาเป็น 100 สาขา ยอดขาย 312 ล้านบาท กำไรสุทธิ 25 ล้านบาท ส่วนปี 2558 มีสาขารวม 130 สาขา ยอดขายรวม 526 ล้านบาท กำไร 40 ล้านบาท และในปี 2559 มีสาขารวมเป็น 150 สาขา มียอดขายรวม 702 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวเลขของเฉพาะบริษัทฯ เท่านั้นไม่เกี่ยวกับแฟรนไชส์ อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปบริษัทฯ จะเน้นการขยายกิจการเองมากกว่าการขายแฟรนไชส์
จากปัจจุบันที่มีร้านมิสเตอร์บัน 58 สาขา แบ่งเป็นของบริษัทฯ 35 สาขาและของแฟรนไชส์ 23 สาขา และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมเป็น 70 สาขา และจะมีรายได้รวมประมาณ 189 ล้านบาท ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกนี้พบว่าธุรกิจมีการเติบโตอย่างดี โดยมีลูกค้าเพิ่มขึ้น 5 แสนกว่าราย หรือ 45% ค่าใช้จ่ายลูกค้าเพิ่มจาก 43 บาทเป็น 48 บาทต่อครั้ง หรือเพิ่ม 11% ยอดขายครึ่งปี 26 ล้านบาท เติบโต 48% กำไร 16 ล้านบาท โดยยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 33%
โดยทางบริษัทดีเอ็นเอจะใช้วิธีการเพิ่มทุนในบริษัทบันปีนี้อีก 40 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 42 ล้านบาท เป็น 82 ล้านบาท และในปีหน้าลงทุนเพิ่มอีก 40 ล้านบาท เพื่อขยายกิจการ ซึ่งครึ่งปีหลังนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 12 สาขา คือที่ โรบินสัน 4 สาขา, เซ็นทรัลหาดใหญ่กับเชียงใหม่รวม 2 สาขา, ซูเปอร์สโตร์ 4 สาขา, ปั๊ม ปตท. 1 สาขา และโรงพยาบาลจุฬา 1 สาขา รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ใหม่รวมทั้งแคมแปญโปรโมชันต่างเพื่อกระตุ้นยอดขาย จากเดิมมีเมนู 30 รายการ และราคาเฉลี่ย 10-20 บาทต่อชิ้น
ส่วนแผนต่างประเทศนั้นมีแผนที่จะรุกเช่นกัน โดยเบื้องต้นเน้นประเทศในกลุ่มอาเซียนก่อน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซียที่น่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมามีทุนท้องถิ่นที่เวียดนามเสนอตัวให้บริษัทเข้าไปซื้อกิจการเบเกอรีที่มีสาขามากกว่า 30 สาขา แต่ยังไม่ได้ตอบรับ
นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ (2002) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องจากต้องการขยายธุรกิจจากโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ไปสู่ธุรกิจรีเทลมากขึ้น จึงเข้าซื้อกิจการของมิสเตอร์บัน ซึ่งมองว่ามีศักยภาพ จากตลาดเบเกอรีที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท เติบโต 10-15% ทุกปี และต้องการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ให้เป็น 50% จากรายได้รวม ส่วนธุรกิจหลักคือโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์นั้นยังเติบโตฐานกว้างขึ้นเหลือสัดส่วน 50% เท่ากัน จากปัจจุบันธุรกิจอื่นๆ พวกรีเทลมีสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น จากรายได้รวมปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วรายได้รวม 1,200 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้าจะมีรายได้รวม 2,500 ล้านบาท
โดยอยู่ระหว่างที่จะเข้าซื้อกิจการอื่นๆ อีกหลายแห่ง แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแผนธุรกิจใหม่ของปี 2557 คาดว่าเดือนตุลาคมจะแล้วเสร็จ ส่วนดีลเข้าถือหุ้นในมิสเตอร์บันนี้ไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจปีนี้ เพียงแต่มองเห็นโอกาสเลยตัดสินใจถือหุ้น 100% อย่างไรก็ตาม ตั้งงบประมาณไว้ 250 ล้านบาทในการเข้าซื้อกิจการอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก