“M” เปิดเทรดวันแรกบวก 6 บาท จากราคาไอพีโอ 55 บาท ตั้งเป้าโตทั้งปี 10%
แรงซื้อ M เปิดเทรดวิ่งบวกทันที 6 บาท อยู่ที่ระดับ 55.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.24% ณ เวลา 10.01 นาที ผู้บริหาร เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ย้ำธุรกิจโตต่อเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานดี เตรียมขยายฐานตลาดในอาเซียน
รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า การเข้าซื้อขายบนกระดานของหุ้น บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ หรือ M เปิดที่ระดับ 55.00 บาทเพิ่มขึ้น 6 บาท หรือ 12.24% จากราคา IPOที่ 49.00 บาท/หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 2,056 ล้านบาท
นายฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป หรือ M กล่าวว่า พอใจในราคาหุ้นที่เปิดตลาดมาในวันซื้อขายวันแรกนี้เพราะมีนักลงทุนให้ความสนใจ และมีความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทฯ ว่าแนวโน้มจะมีอนาคตที่ดี เพราะอุตสาหกรรมอาหารกำลังมีการขยายตัวเป็นอย่างมาก และตัวบริษัทเองนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารที่ดีมาก ถึงแม้ว่าาตลาดหุ้นไทยในระยะนี้จะมีการแกว่งตัวผันผวนจากปัจจัยภายใน และภายนอกประเทศอยู่บ้าง แต่แนวโน้มโดยรวมยังคงน่าลงทุนอยู่ ซึ่งบริษัทจะเน้นย้ำในธรรมาภิบาล และจะการทำประโยชน์เพื่อสังคม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะขยายการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศเพิ่มเติม โดยได้เปิดสาขาที่ญี่ปุ่นไปแล้ว 36 สาขา และเตรียมที่จะไปลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม ที่โฮจิมินห์ 2 สาขา และฮานอย 1 สาขา ในประเทศสิงคโปร์ 1 สาขา และประเทศอินโดนีเซีย ที่เมืองจาการ์ตา อีก 1 สาขา นอกจากนี้ ยังได้มองการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศ มาเลเซีย พม่า และ ฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการมองหาทำเลการลงทุน การศึกษาข้อกฎหมาย และพันธมิตรที่จะร่วมลงทุนในประเทศนั้นๆ ซึ่งแต่ละประเทศจะมีพฤติกรรมการบริโภคที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ในปีนี้ โดยแบ่งเป็นร้าน เอ็มเค เรสโตรองต์ 40 สาขา และยาโยอิ 25 สาขา ซึ่งเงินลงทุนเฉลี่ยต่อสาขาที่ 8-10 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่าจะเปิดสาขาใกล้เคียงกับปีนี้ โดยจะพิจารณาจากศักยภาพการลงทุนในพื่นที่นั้นๆ ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนขายหุ้น IPO นั้น บริษัทฯ จะนำไปเป็นเงินก่อสร้างครัวกลางเพื่อจัดส่งวัตถุดิบไปยังสาขาต่างๆ และสำนักงานแห่งใหม่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
ในส่วนของอัตราฟรีโฟลตที่ 25% ประมาณ 9,000 ล้านบาท จะมากพอ และอาจจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตตามความเหมาะสม ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมที่จะนำเทคโนโลยีไอทีเข้ามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพ และบริการของร้านเอ็มเค และยาโยอิเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าแรงพนักงานได้กว่า 1,000 คน
“บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น หรือ Gross Profit Margin คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ 66-67% ส่วนกำไรสุทธิ หรือ Net Profit Margin ของปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วเช่นกันที่ 13-14% ซึ่งถือว่าดีที่สุดในกลุ่มธุรกิจกลุ่มอาหาร”