3ปัจจัยดันอีเวนต์ครึ่งปีหลังคึกคัก ซีเอ็มโอขยายงานรองรับตลาด

เสริมคุณ คุณาวงศ์

       “ซีเอ็มโอ” ชี้ธุรกิจอีเวนต์ในประเทศครึ่งปีหลังตื่นตัวคึกคัก รับปัจจัยบวก 3 ปัจจัย หลังพบว่าบริษัททั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญเพิ่มงบการตลาดเพื่อลงทุนขยายงานในอาเซียน ด้าน “ผู้บริหาร” ชูความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเวนต์ เน้นการตลาดแบบสร้างประสบการณ์ (Experiential Marketing) พร้อมเผยมีลูกค้าจากธุรกิจทั้งคอนซูเมอร์, โทรคมนาคม, รถยนต์ และอสังหาฯ ใช้บริการ มั่นใจรายได้สิ้นปีเข้าเป้า 1.2 พันล้าน
       
       นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจอีเวนต์ครบวงจรแห่งอาเซียน เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดธุรกิจอีเวนต์ภายในประเทศในช่วงครึ่งปีหลังนี้ว่ายังคงเป็นปีทองของธุรกิจ ซึ่งธุรกิจอีเวนต์ในประเทศยังตื่นตัว มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยการเติบโต 3 ปัจจัย ได้แก่ 1. บริษัทข้ามชาติจากทวีปยุโรป อเมริกา หรือจากประเทศญี่ปุ่น มีความต้องการที่จะขยายงานเข้าสู่อาเซียน ต่างเลือกใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อทำการตลาดในการที่จะเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV (ประเทศกัมพูชา, ประเทศลาว, ประเทศพม่า และประเทศเวียดนาม)
       
       ในส่วนปัจจัยที่ 2 คือ บริษัท Inter Brand ในประเทศไทยต้องการขยายเข้าสู่อาเซียน ทำให้เพิ่มงบการตลาดมากขึ้น และปัจจัยที่ 3 คือบริษัทของคนไทย (Local Brand) ที่ต้องการจะขยายงานเข้าสู่ AEC ต่างเพิ่มงบประมาณการแข่งขันเพื่อทำการตลาด ทั้งจัดกิจกรรม, ทำโฆษณา และประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง 3 ปัจจัยทำให้ตลาดอีเวนต์ตื่นตัว
       
       “ในช่วงครึ่งปีหลังนี้มองว่าเป็นโอกาสที่ดีของ CMO ในการที่จะรุกงานภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการทำตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะงานในประเทศยังมีสัญญาณการเติบโตที่ดีมาก ถึงแม้ว่าจะไม่มีโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ แต่จะเห็นว่าจากปัจจัยที่บริษัททุกบริษัทต่างตื่นตัวกับเรื่อง AEC ส่งผลทำให้หลายๆ บริษัทเพิ่มงบการตลาด เพื่อแข่งขันทางธุรกิจ ขณะเดียวกัน บริษัทต่างชาติที่เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการขยายงานนั้น หลายองค์กรยังขาดพาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญในด้าน communications และ event management จุดนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของ CMO ในการได้งานเพิ่มขึ้นอีกด้วย” นายเสริมคุณกล่าว
       
       นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เชื่อว่าเป็นปีที่ดีของธุรกิจอีเวนต์ โดยอีเวนต์ในประเทศจะตื่นตัวตามอุตสาหกรรมรถยนต์, ธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคม และอุตสาหกรรรมเครื่องดื่ม ตลอดจนกลุ่มผลิตภัณฑ์ความสวยงาม ซึ่งปีนี้มีแนวโน้มแข่งขันกันรุนแรง แต่ละค่ายจัดหนักงบการตลาดออกมาใช้สำหรับแคมเปญและอีเวนต์ในรูปแบบต่างๆ บวกกับการเติบโตในภาคธุรกิจ Entertainment Event มากขึ้น เช่น การจัดคอนเสิร์ตทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ซึ่งส่งผลให้กลุ่มบริษัทให้เช่าอุปกรณ์จะเติบโตไปด้วยเช่นกัน
       
       ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีเอ็มโอกล่าวอีกว่า กลยุทธ์การตลาดที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญคือ การตลาดแบบสร้างประสบการณ์ (Experiential Marketing) การตลาดที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และไร้ขอบเขต ที่เน้นการสร้างประสบการณ์ให้แก่กลุ่มคนที่มาร่วมงาน แถมยังช่วยต่อยอดในโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี
       
       “ทั้งนี้ รายได้หลักของ CMO มาจากการจัดอีเวนต์ในประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนลูกค้าเป็นบริษัทเอกชน 70% ส่วนภาครัฐ 30% ล่าสุดบริษัทฯ เพิ่งคว้างานเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี SCG มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท รวมถึงได้จัดงานแสดงตราไปรษณียากรโลก พ.ศ. 2556 อีกด้วย ขณะเดียวกันยังมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกหลายงาน เช่น นิทรรศการถาวรพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.อุบลราชธานี ภายใต้กองทัพภาคที่ 2 เป็นต้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
       
       ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำของประเทศเลือกใช้บริการ เช่น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย, บริษัท ฟอร์ด เซลส์ & เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์,ทรู คอร์ปอเรชั่น, บมจ.ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, บริษัท สยามมิชลิน จำกัด, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นต้น
       
       ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีเอ็มโอกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้ขยายขอบเขตธุรกิจให้กว้างออกไปมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่จะไม่เป็นเพียงบริษัทอีเวนต์ด้วยการเพิ่มหน่วยธุรกิจ IMC (Integrated Marketing Communications) หรือการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ซึ่งผลงานครึ่งปีแรกถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยมีลูกค้าไว้วางใจใช้บริการงาน IMC ของเราเป็นจำนวนมาก เช่น งาน Thaibex 2013 มหกรรมดิจิตอลบรอดแคสติ้งครั้งแรกของไทย, ไอเดียใช้รถนิสสัน Selphy ในการรับส่งดาราในงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ เป็นต้น
       
       สำหรับแผนขยายงานสู่ตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตดี โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 5-6% ของรายได้รวม ซึ่งตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้รับจัดงานในต่างประเทศ เช่น จัดงานเปิดตัวเที่ยวบินกรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ของสายการบินไทยสไมล์ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), งานเปิดตัวโคคา โคลา ที่ประเทศลาว, งานสงกรานต์ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” Songkran gkran Splendours ณ ประเทศอินโดนีเซีย และล่าสุดได้งานแคมเปญ 27th SEA Games Myanmar Lucky Cards Campaign ที่ประเทศพม่าอีกด้วย

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ manager.co.th ดูทั้งหมด

227

views
Credit : manager.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน