แนะรัฐเร่ง “เมกะโปรเจกต์” ดึงลงทุน “ชนิตร” ยอมรับ “หุ้นไอพีโอ” ส่งสัญญาณชะลอตัว
“ชนิตร” ห่วงเมกะโปรเจกต์ชะลอ หรือต้องเลื่อนออกไป แนะรัฐเร่งลงทุน 2.2 ล้านล้าน เพื่อดูดเม็ดเงินนอก และเพิ่มศักยภาพแข่งขันในอาเซียน มั่นใจต่างชาติยังสนใจหุ้นไทย พร้อมแนะดูผลงาน บจ. ใน Q2 เพื่อเลือกซื้อเข้าพอร์ต โดยไม่ต้องไปวิตกเรื่อง “จีดีพี” ยอมรับ “หุ้นไอพีโอ” เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ช่วงครึ่งปีหลัง “ผู้ประกอบการ” กังวลความผันผวนกระทบแผนระดมทุน
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ในส่วนของนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ดี และควรจะเร่งดำเนินการ เนื่องจากจะเป็นการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งสำคัญของประเทศ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจ และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้
ทั้งนี้ หากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต้องมีการชะลอตัว หรือปรับเลื่อนโครงการนี้อออกไป จะทำให้ศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียนลดน้อยลง ดังนั้น ไทยควรจะรีบดำเนินการได้แล้ว เพราะในหลายประเทศก็เริ่มพัฒนาไปบ้างแล้ว ยิ่งเราช้าความสามารถของเราจะแข่งกันคนอื่นได้ยาก” นายชนิตรกล่าว
ส่วนแนวโน้มของการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง นายชนิตร มองว่า ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี และนักลงทุนต่างชาติก็หันมาให้ความสนใจในการลงทุนในไทยมากขึ้น โดยที่การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังแนะนำให้นักลงทุนประเมินศักยภาพของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ก่อนการลงทุน
ทั้งนี้ นักลงทุนควรจะดูที่ผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่จะออกมาในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2556 นี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดการเติบโตของธุรกิจในครึ่งปีหลังได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญไม่ควรไปกังวลกับตัวเลขการเติบโต (จีดีพี) ที่ถูกปรับลดลงมามากนัก เพราะภาพรวมของเศรษฐกิจของไทยช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีอัตราการขยายตัวในเกณฑ์ที่ยังดีอยู่
อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นสัญญาณของการชะลอตัวของการเสนอขายหุ้นครั้งแรกต่อประชาชน (IPO)ในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากตลาดหุ้นมีความผันผวน ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความกังวลในการที่จะเข้ามาระดมทุน รวมถึงตัวนักลงทุนก็มีความกังวลในการที่จะลงทุนเช่นเดียวกัน มีผลทำให้ความน่าสนใจของหลักทรัพย์ที่เสนอขายลดน้อยลงไปด้วย