‘ซูซูกิ’ ยกไทยฐานผลิตบิ๊กไบค์แห่งแรกนอกญี่ปุ่น

 ข่าวในประเทศ - ค่ายรถจักรยานยนต์ “ซูซูกิ” มองเทรนด์ตลาดบิ๊กไบค์อาเซียนกำลังมาแรง ประกาศยกไทยเป็นฐานการผลิตนอกญี่ปุ่นแห่งแรก รองรับในประเทศและส่งออกทั่วโลก กำลังการผลิตไม่ต่ำกว่าปีละ 3 แสนคัน ประเดิมโมเดลแรก 1 รุ่นปีนี้ และยังเตรียมเปิดรถใหม่อีก 3 รุ่น รวมเงินลงทุนก้อนแรก 500 ล้านบาท หวังผลักดันแชร์กลับมายืนระดับ 5%

  นายซาโทชิ อูชิดะ ประธานและซีอีโอคนใหม่ของ บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในการเข้ารับตำแหน่งในประเทศไทย มีเป้าหมายให้ผู้มีส่วนร่วมทุกๆ ฝ่ายกับซูซูกิ ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ดีลเลอร์ และส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะลูกค้าทุกคนได้รับความสุขจากซูซูกิ ด้วยนโยบายสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับดีลเลอร์ ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองลูกค้า และสามารถแข่งขันได้ บริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจสูงสุด และสุดท้ายสร้างแบรนด์ซูซูกิในไทยให้แข็งแกร่ง
       
       “ทุกเรื่องมีความสำคัญมาก เป็นสิ่งที่ซูซูกิจต้องดำเนินการไปพร้อมๆ กัน อย่างเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่จะมีการปรับเปลี่ยนทิศทาง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด ซึ่งปัจจุบันรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ กำลังได้รับความนิยมในไทย และเชื่อว่าต่อไปจะขยายสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ที่สำคัญซูซูกิได้เป็นที่ยอมรับเรื่องรถกลุ่มนี้อยู่แล้ว เหตุนี้ซูซูกิจึงมีแผนที่จะยกไทยเป็นฐานการผลิตบิ๊กไบค์ เพื่อทำตลาดในไทยและส่งออกทั่วโลก ภายใต้โครงการโกลบอลโมเดล โดยตอนนี้ได้มีการเริ่มดำเนินการแล้ว ด้วยเงินลงทุน 200-300 ล้านบาท เพื่อที่จะเริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลางสู่ตลาด 1 รุ่น ซึ่งจะเริ่มส่งออกต่างประเทศช่วงไตรมาสสาม และเปิดตัวในไทยช่วงปลายปีนี้”

ทั้งนี้รถขนาดกลางและใหญ่ของซูซูกิที่จะผลิตในไทย มีขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 200-750 ซีซี ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น และการลงทุนดังกล่าวเป็นช่วงเริ่มต้นของโมเดลแรก หรือมียอดการผลิตปีแรกประมาณ 1 หมื่นคัน และต่อไปจะมีรุ่นอื่นๆ ตามออกมา และต้องมีการลงทุนอีกอย่างต่อเนื่อง จึงไม่สามารถระบุจำนวนเงินลงทุนที่ชัดเจนได้ กับโครงการผลิตรถจักรยานยนต์โกลบอลโมเดลนี้ แต่คาดว่าในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า จะมีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 3 แสนคัน จากปัจจุบันโรงงานซูซูกิมีกำลังการผลิตประมาณ 4 แสนคัน
       
       นายอูชิดะเปิดเผยว่า แน่นอนจุดยืนของซูซูกิยังคงให้ความสำคัญกับจักรยานยนต์ขนาดเล็ก เพียงแต่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองตลาด โดยเฉพาะที่กำลังได้รับความนิยม อย่างรถขนาดกลางและใหญ่ ที่ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยหันมาให้ความนิยมมากขึ้น เห็นได้ว่าจากปีที่ผ่านมาตลาดอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นคัน จะเพิ่มเป็นประมาณ 2 หมื่นคันในปีนี้ ขณะที่รถขนาดเล็กซูซูกิยังให้ความสำคัญ และจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องมีรถที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค

   “ปีนี้ซูซูกิจะเปิดตัวรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กออกมาอีก 3 โมเดล ซึ่งจะเป็นรถรุ่นใหม่ที่ไม่มีในตลาด และเมื่อรวมกับรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง 1 รุ่น รวมเงินลงทุนปีนี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าจะผลักดันยอดขายจักรยานยนต์ซูซูกิในไทย บรรลุเป้าหมาย 1 แสนคันได้ จากภาพรวมตลาดปีนี้น่าจะอยู่ที่ 2 ล้านคัน แม้ช่วงครึ่งปีแรกจะมียอดขายเพียงกว่า 3 หมื่นคัน และวางเป้าหมายกลับมามีส่วนแบ่งการตลาด หรือแชร์ไม่ต่ำกว่า 5% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3%”
       
       ในส่วนของเครือข่ายจำหน่าย ปัจจุบันซูซูกิมีโชว์รูมจำหน่ายประมาณ 500 แห่ง ซึ่งเพียงพอกับสภาพตลาดปัจจุบัน แต่เมื่อมีการแนะนำรถจักรยานยนต์ขนาดกลางสู่ตลาด จำเป็นต้องเลือกหาตัวแทนจำหน่ายในปัจจุบัน 60-100 แห่ง ที่มีคุณสมบัติเรื่องของการขาย บริการหลังการขาย และอะไหล่ ในการจำหน่ายรถขนาดกลางและใหญ่ แต่ในอนาคตหากมีรถขนาดใหญ่ทำตลาด คงจะต้องมีการแยกโชว์รูมออกมาให้ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันมีเพียงแห่งเดียวอยู่ที่แยกรัชดาภิเษก

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ manager.co.th ดูทั้งหมด

236

views
Credit : manager.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน