“รีเทลลิงค์” รุกแบงก์-ไอที ผนึกทุนท้องถิ่นลุยอาเซียน
ค่าเงินบาทอ่อน ท่องเที่ยวบูม อานิสงส์ธุรกิจบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม “รีเทลลิงค์” ยิ้มยอดขายเครื่องชงกาแฟโตร่วม 20% ลูกค้าใหม่ตบเท้าใช้บริการ เตรียมปรับรายได้โต 15% คิดเป็น 2,300 ล้านบาท สู่ 2,700 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ พร้อมปูพรมลุยอาเซียน จับมือกับพันธมิตรในพม่า เขมร ลาว
นายนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ เปิดเผยว่า จากแผนเดิมปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 15% คิดเป็นมูลค่า2,300 ล้านบาท มาจากธุรกิจการจำหน่ายอุปกรณ์ 1,000 ล้านบาท และธุรกิจการขายบริการต่างๆ อีก 1,300 ล้านบาท แต่ทั้งนี้พบว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 ที่ผ่านมาบริษัทมียอดการจำหน่ายสินค้าและให้บริการเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,293 ล้านบาท โตกว่า 15% จากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มและเครื่องชงกาแฟ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคภาคการท่องเที่ยวและการบริการมีการขยายตัวจากค่าเงินบาทอ่อน ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ในครึ่งหลังปี 2556 นี้บริษัทตั้งเป้าขยายธุรกิจเติบโต 20% หรือทั้งปีน่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 2,700 ล้านบาทได้ โดยมีการวางแผนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยการขยายการให้บริการลูกค้าจากฐานเดิมที่มีอยู่คือร้านเซเว่น อีเลฟเว่น, ภัตตาคารและธุรกิจโรงแรม เป็นกลุ่มลูกค้าใหม่คือธนาคาร และกลุ่มโทรคมนาคมอย่างดีแทคให้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มลูกค้าใหม่เข้ามาอย่างกาแฟอเมซอน เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบการให้บริการเกี่ยวกับรับแจ้งปัญหาหรือแจ้งซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงยังได้ขยายจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเพื่อให้บริการที่ครอบคลุมและเปิดศูนย์แสดงสินค้าหรือโชว์รูมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมกว่า 10 สาขา โดยบริษัทจะเพิ่มโชว์รูมของตัวเองอีก 6 สาขาทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดเช่นกัน ภายใต้งบการลงทุนที่ 50 ล้านบาท เฉลี่ยลงทุนสาขาละ 5 แสน-1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจเช่าซื้อให้บริการอุปกรณ์เครื่องดื่มและร้านอาหารนี้มีมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะทรงตัวหรือเติบโตได้ไม่เกิน 5% โดยกลุ่มที่เติบโตมากสุด คือกลุ่มเครื่องชงกาแฟ ที่ปีนี้มีความต้องการของตลาดมากกว่า 4,000 เครื่อง และซีพี รีเทลลิงค์มีแชร์ในตลาดนี้กว่า 70% หรือมียอดขายไม่ต่ำกว่า 2,000 เครื่อง เฉลี่ยราคาเครื่องละ 1-1.5 แสนบาท มองว่าปีนี้บริษัทจะมียอดขายเครื่องชงกาแฟเติบโตขึ้นกว่า 20%
นายนริศกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้เปลี่ยนชื่อจาก บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าไปเปิดตลาดในอาเซียนที่จะเริ่มในช่วงไตรมาสสี่นี้ เบื้องต้นจะเริ่มพร้อมๆ กันใน 3 ประเทศ คือ พม่า เขมร และลาว ซึ่งมีศักยภาพความต้องการในธุรกิจของซีพี รีเทลลิงค์สูง เพราะอานิสงส์จากท่องเที่ยวเช่นเดียวกับไทย ทำให้ธุรกิจบริการทั้งโรงแรม ร้านอาหาร เชนร้านสะดวกซื้อกำลังมีโอกาสสูงมาก และในประเทศเหล่านี้ยังไม่มีใครให้บริการแบบซีพี รีเทลลิงค์ที่มีบริการดูแลหลังการขายให้
สำหรับแนวทางขยายตลาดอาเซียนครั้งนี้จะใช้กลยุทธ์จับมือกับพันธมิตรในแต่ละประเทศ โดยพันธมิตรจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมดราว 1 ล้านบาทต่อสาขา และบริษัทสนับสนุนในเรื่องบริการหลังการขาย และโนว์ฮาวต่างๆ คาดว่าภายในปี 2557 แต่ละประเทศจะได้เห็นอย่างน้อย 1-2 สาขาในเมืองใหญ่ หรือภายใน 1 ปีแรกมองว่าจะมีรายได้จาก 3 ประเทศรวมกันราว 150 ล้านบาท