ผบ.ทบ.ร้องขอไทยพุทธ มุสลิมจับมือไม่ทิ้งบ้านเกิดร่วมสร้างสันติสุขยุติไฟใต้
นราธิวาส - ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ อ.บาเจาะ มอบถุงยังชีพให้คนชราเพื่อใช้ช่วงเดือนรอมฎอน พร้อมฝากร้องขอชาวไทยพุทธ มุสลิมจับมือกันไม่ทิ้งบ้านเกิด ร่วมสร้างสันติสุข เตรียมรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (3 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และคณะ ได้เดินทางไปยังวัดเชิงเขา ซึ่งตั้งอยู่ ม.4 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานโครงการเดินเท้าเข้าทุกชุมชน ที่ น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ค่ายจุฬาภรณ์จัดขึ้น เพื่อรับทราบปัญหาข้อขัดข้องกับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนชาวไทยพุทธและมุสลิม ที่ได้ชื่อว่า เป็นหมู่บ้าน 2 วัฒนธรรม ที่ไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลายาวนานและยั่งยืน ซึ่งตำบลปะลุกาสาเมาะ มีจำนวน 11 หมู่บ้าน ประชากรรวมทั้งสิ้นประมาณ 7,000 คน โดยเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านทุกคนร่วมมือร่วมใจที่จะไม่ทิ้งบ้านเกิด หลังจากที่ น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ค่ายจุฬาภรณ์ ได้หลอมรวมชาวบ้านให้เป็นหนึ่งเดียว
ซึ่งการเดินทางมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในครั้งนี้ ชาวบ้านได้จัดศิลปะการแสดงมะโย่ง ซึ่งเป็นศิลปะพื้นบ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหาชมยาก และเกือบที่จะสูญหายไปจากพื้นที่แล้ว โดยผู้แสดงมีทั้งชาวไทยพุทธ และมุสลิมร่วมขับร้องร่ายรำผสมผสานศิลปะกันมาเป็นเวลายาวนาน และเหลือเพียงวงเดียวในพื้นที่ จ.นราธิวาส สร้างความสนใจแก่คณะของ พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.เป็นอย่างมาก ที่ยังได้เห็นไทยพุทธ และมุสลิมอยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว และอยากที่จะนำไปเป็นตัวอย่างให้พื้นที่หมู่บ้านต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่ไทยพุทธ และมุสลิมรักกันเหมือนกับที่หมู่บ้านเชิงเขาแห่งนี้
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้มอบถุงยังชีพแก่ผู้สูงอายุ และได้มอบเครื่องอุปโภคข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งน้ำตาลทรายให้แก่ชาวไทยมุสลิม เพื่อนำไปใช้ในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอด ควบคู่กับทาง น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ค่ายจุฬาภรณ์ ได้จัดหน่วยแพทย์ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ออกให้บริการแก่ประชาชนในครั้งนี้ด้วย
โดยก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้กล่าวพบปะกับประชาชน ว่า ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ นับเป็นพื้นที่ 2 วัฒนธรรม 2 ศาสนา ที่อยู่ร่วมกันมายาวนาน และเป็นพื้นที่ที่ประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมเข้าใจกัน ร่วมกันอยู่ได้ท่ามกลางความแตกต่าง แต่ไม่แตกแยกทั้งหมดเพราะคนที่นี้เข้าใจ และรักสามัคคี เป็นที่น่ายกย่อง จึงอยากเห็นในหลายพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ เข้าใจในลักษณะนี้ ไม่เข่นฆ่ากัน โดยเฉพาะทุกคนอย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นความสันติสุข มีใครต้องการแบ่งแยกดินแดน และอยู่ภายใต้การปกครองที่เหี้ยมโหด ดูจากเหตุความไม่สงบ กระทำการรุนแรง ไม่เว้นเด็กและสตรี
ดังนั้น จึงอยากขอความร่วมมือทุกคนอย่าต้องให้ลูกหลานที่กำลังจะเติบโตในวันข้างหน้า เดินเข้าสู่กระบวนการการจับอาวุธ และใช้วิธีความรุนแรง เพราะจะมีแต่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เศรษฐกิจจะพังพินาศ ทั้งที่จะเข้าสู่ประชมอาเซียนแล้ว จึงร้องขอไปยังประชาชนในพื้นที่ทุกคนมาร่วมสร้างสันติสุข และตนยืนยันไม่เคยสั่งการให้มีการฆ่าประชาชน มีแต่สั่งช่วยประชาชน หากพบว่าทหารคนใดมีพฤติกรรมสร้างเงื่อนไข หรือเลว ให้ประชาชนบอกมา ไม่ใช่เหมาว่ากองทัพทำ เพราะทุกองค์กรมีคนดี คนชั่ว กองทัพพร้อมที่จะจัดการขั้นเด็ดขาดตามกฎของทหาร