“ปู” มอบหมาย “ปลอด” ดูแลหมอกควันภาคใต้ จ่อนำเข้าที่ประชุมอาเซียน

นายกฯ ห่วงปัญหาหมอกควันจากเกาะสุมาตราเข้าสู่ภาคใต้ มอบหมาย “ปลอดประสพ” สั่งดูแลความปลอดภัย 6 มาตรการ เผยมีฝนช่วยให้บรรเทา รมว.ต่างประเทศ เตรียมถกในที่ประชุมอาเซียน
       
       วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี แถลงถึงปัญหาไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ส่งกระทบมาถึงภาคใต้ของประเทศไทย ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงปัญหาดังกล่าว จึงสั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาล เข้าไปดูแลโดยเน้นความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งตนได้รับมอบหมายในเรื่องดังกล่าว จึงได้สั่งการ 6 ข้อ คือ 1.ให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ จิสด้า (GISTDA) ถ่ายภาพดาวเทียมแบบรายวัน ว่าควันไฟได้เคลื่อนตัวมาถึงจุดไหน และมีความเข้มของควันเท่าใด นอกจากนี้ยังขอให้กองทัพ โดยกระทรวงกลาโหมส่งเครื่องบินขึ้นถ่ายภาพทางอากาศในระดับปานกลาง เพื่อนำมาประกอบกับภาพถ่ายดาวเทียมว่ากระแสลมมาทางทิศไหน และทิศไหนมีมากน้อย
       
       2.ให้กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่มีเครื่องวัดค่ามลพิษทางอากาศ หรือ PL รายงานผลมายังคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ทุกวัน 3.รัฐบาลจะประกาศความคืบหน้าของปัญหาดังกล่าวทางวิทยุและโทรทัศน์อย่างเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนเตรียมการป้องกัน 4.ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมกรณีที่พบว่ามีผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ อันเนื่องมาจากปัญหาหมอกควัน 5.ขอให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ดูแลเรื่องการจราจร หากเกิดปัญหาอุบัติเหตุโดยเฉพาะในพื้นที่อับลม และ 6.ให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ดูระดับควันไฟว่าเกินเกณฑ์ที่เป็นอันตรายหรือไม่ หากเกินเกณฑ์ที่เป็นอันตรายสามารถสั่งปิดโรงเรียนได้
       
       นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้หมอกควันได้มาถึงจังหวัดนราธิวาส และบางส่วนได้เคลื่อนมายังอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งปริมาณควันไฟอยู่ในระดับ PL90 คือระดับปานกลางค่อนข้างสูง เราหวังว่าถ้าลมใต้ไม่แรงไปกว่านี้ควันไฟหน้าจะหยุดอยู่ที่ จ.สงขลา และไม่ขึ้นไปเหนือกว่านี้ เพราะเราไม่มั่นใจในสภาพอากาศ แต่เราโชคดีที่ขณะนี้มีฝน เพราะถ้าไม่มีฝนเหตุการณ์จะร้ายแรงกว่านี้ และขอเรียนประชาชนว่าเรายังไม่ถึงขีดอันตราย อีกทั้งรัฐบาลได้เตรียมการป้องกันไว้ อย่างไรก็ตาม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ จะนำปัญหาเรื่องดังกล่าวไปหารือในที่ประชุมอาเซียน ว่าเราจะสามารถช่วยเหลือทางอินโดนีเซียได้อย่างไร