กรมอุทยานจับมือชาติอาเซียนบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าเข้มงวด
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดการประชุมเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าแห่งภูมิภาคอาเซียน โดยมีสมาชิกจาก 10 ประเทศกลุ่มอาเซียนเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ที่โรงแรมดิเอ็มเพลส เชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
นายธีรภัทร กล่าวว่า การจัดการประชุมเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าแห่งภูมิอาเซียนในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ครั้งที่ 13 ประเทศไทย จึงได้เริ่มแนวทางที่จะสร้างความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อต่อต้านอาชญากรรมการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าแห่งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ มีการจัดการประชุมมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 8 แล้ว ที่มีการประชุม
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเครือข่าย ได้มีโอกาสรับทราบผลการดำเนินงานของเครือข่ายในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อหาความร่วมมือกันระหว่างประเทศในภูมิอาเซียน และเครือข่าย หรือประเทศนอกภูมิภาค ในการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย แสวงหาการสนับสนุนการดำเนินงานเครือข่ายจากภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการดำเนินงานเครือข่ายในอนาคต ซึ่งการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นเรื่องของแผนความยั่งยืนในการบังคับใช้กฎหมาย และการจัดทำกรอบความร่วมมือที่เข้มแข็ง
นายธีรภัทร กล่าวต่อไปอีกว่า การค้าสัตว์ป่าและพืชป่านั้น ถือเป็นการค้าอันดับสองที่รองลงมาจากปัญหาด้านยาเสพติด ซึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการป้องกันสัตว์ป่าและพืชป่าในปี 2551 - 2554 มีการรายงานการปฏิบัติการเกี่ยวกับคดีรวมทั้งสิ้นจำนวน 748 คดี จำนวนสัตว์ป่าของกลางที่มีชีวิตมากกว่า 121,486 ตัว ซากสัตว์ 151,809 ตัว ชิ้นส่วนและสิ่งแปรรูปจากสัตว์ป่ารวมมากกว่า 432.727 ตัน ประเมินมูลค่าของกลางตามราคาในตลาดมืดขั้นต่ำ 73.363 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จำนวนคดี 883 คดี และดำเนินคดี 99 คดี ไม้ผิดกฎหมายมากกว่า 1,270 ท่อน และพืชป่า 1,233 ต้น ชิ้นส่วนและสิ่งแปรรูปจากไม้ 430 กิโลกรัม และ 80 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ซึ่งในพื้นที่ประเทศไทยนั้นแหล่งที่มีการลักลอบค้าสัตว์ป่าจะอยู่ในแนวชายแดน ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ สาเหตุมาจากประเทศไทยนั้นเป็นเส้นทางของการคมนาคม จึงทำให้เป็นจุดผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่สาม ดังนั้นจึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อให้การลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าลดลง หลังจากกระแสการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าในปีนี้คาดการณ์ไว้ว่าจะรุนแรงมากขึ้น
ที่มา : dailynewsco.th