“สหพัฒนพิบูล” คาดค้าปลีกเริ่มฟื้นครึ่งปีหลัง ฟุ้งปีนี้กวาดรายได้กว่า 3 หมื่นล้านบาท
"“เจ้าสัวบุญชัย” ฟุ้งหลัง คสช.เข้ามาบริหาร กระตุ้นเศรษฐกิจ ดันยอดจับจ่ายรากหญ้าฟื้นตัว ตั้งเป้ารายได้ครึ่งปีหลังเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือทั้งปีโกยถึง 3.11 หมื่นล้านบาท เผยเตรียมปรับแผนกลยุทธ์การขายรุกตลาดสินค้าอาเซียนมากขึ้น คาดเป้าขายต่างประเทศกลุ่มประเทศอาเซียนจะมากถึง 50% ของยอดขายต่างประเทศทั้งหมด ส่วนสหภาพยุโรป(อียู)และสหรัฐฯ ที่คว่ำบาตรสินค้าไทย ไม่กังวลเพราะเทียบสัดส่วนกับญี่ปุ่นถือว่าอยู่ในระดับต่ำ
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC กล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ไม่ต่ำกว่า 4% โดยเริ่มสะท้อนการจับจ่ายจากประชาชนในระดับรากหญ้า หลังการเข้ามาบริหารงานตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เช่นมีการจ่ายเงินที่ค้างอยู่ในโครงการจำนำข้าวให้กับเกษตรกร ทำให้มีสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจและมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
“ซึ่งหลังจากนี้ คาดว่าจะมีโครงการขนาดใหญ่ที่ยังไม่แล้วเสร็จจะเริ่มทยอยดำเนินการต่อจากที่ค้างอยู่มานาน อันจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคจะกลับมาสู่ภาวะปกติอีกครั้ง โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขายในปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปี 2557 บริษัทฯประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้เติบโตเพียง 3-4% เท่านั้น”
ขณะเดียวกัน บริษัทฯวางแผนขยายการลงทุนเข้าไปยังตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีใหญ่ มีกำลังซื้อมากและมีโอกาสในการทำธุรกิจอยู่สูง แต่ยังคงต้องศึกษาตลาดและวางยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม และการหาพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมลงทุน เพราะในบางประเทศยังติดอยู่ในข้อกฎหมายของการเข้าไปประกอบกิจการ โดยปัจจุบันได้นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและผงซักฟอกเข้าไปวางจำหน่ายในบางตลาดแล้ว ส่วนอนาคตนั้นมองว่าหากยังไม่มีสินค้าที่มีความถี่ในการใช้ต่อหน่วยเป็นจำนวนมาก และสามารถใช้แทนสินค้าในกลุ่มประเภทเดียวกันได้ ก็จะทยอยหาช่องทางเพื่อนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย และมองหาธุรกิจอื่นแทนที่มีโอกาสในช่องทางการทำตลาดอีกด้วย
ล่าสุด บริษัทฯได้จัดตั้งบริษัทลูก เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน ตลอดจนถึงการรองรับสินค้าในเครือในทุกกลุ่มสินค้าทั้งแฟชั่น และอุปโภคบริโภค โดยหลังจากนี้บริษัทฯตั้งเป้าว่าสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในกลุ่มประเทศอาเซียนจะมากถึง 50% ของรายได้จากการขายในต่างประเทศทั้งหมด โดยบริษัทฯจะพิจารณาปรับสัดส่วนการขายตามความเหมาะสมในแต่ละประเทศและกลุ่มสินค้าต่อไป
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดในสหรัฐฯและอียูจะแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ และกดดันต่อการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทย บริษัทฯมองว่าไม่กระทบมากนัก เนื่องจากมูลค่าสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มประเทศเหล่านั้น ยังน้อยอยู่เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่ยังคงเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของไทย และยังคงเข้ามาลงทุนในตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในโครงการต่างๆ ตามแผนงานของ คสช. จะสามารถดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลุ่มประเทศแถบยุโรปและอเมริกาจะกลับมาเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุนในครึ่งปีหลังบริษัทฯจะจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดมากขึ้น โดยเตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเน้นเป้าหมายไปที่สินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งมั่นใจว่ายอดขายสินค้าในครึ่งปีหลังจะกลับมาเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% และจะสามารถชดเชยรายได้ที่ปรับตัวลดลงในครึ่งปีแรกที่เติบโตเพียง 2% โดยรายได้ทั้งปีคาดว่าจะโตที่ 7.38% หรือ 3.11 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้น SPC เทรดอยู่เหนือระดับ 40 บาท และมูลค่าการซื้อขายไม่หนาแน่นนัก แต่ราคาหุ้นบวกให้เห็นและมีแนวโน้นขยับเพิ่มต่อ ซึ่งราคาหุ้นตอนต้นปี 2557 นี้ เทรดระดับ 40 บาทต้นๆ