เผยผลสำรวจ บจ.ไทยได้คะแนนมาตรฐานสูงสุดในอาเซียน
"ตลท." สยบข่าวลือเก็บภาษีกำไรหุ้น "สถิตย์" ยันชัดการเก็บ capital gain tax ยังไม่เหมาะทำในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ติงยังไม่ควรพูดต่ออายุ LTF และ RMF หรือไม่ ด้านสถาบันกรรมการบริษัทไทย เผยผลสำรวจ บจ.ไทยคะแนนมาตรฐานสูงสุดในอาเซียน โดยฌฉพาะหมวดสิทธิ์ของผู้ถือหุ้น และการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าว ตลท.จะเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น (capital gain tax) นั้น มองว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่เหมาะสมที่จะพิจารณาในขณะนี้ เพราะ ตลท.อยู่ระหว่างสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน อีกทั้งผู้ลงทุนกว่า 50% เป็นรายย่อย หากมีการเก็บภาษีจะกระทบต่อคนจำนวนมาก และอาจไม่สอดคล้องกับนโยบายของ ตลท.ที่ส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปรู้จักการออม หรือนำเงินออมมาลงทุนใน ตลท. รวมถึงส่งเสริมให้คนทั่วไปสามารถลงทุนใน ตลท.ได้
ส่วนกรณีกระแสข่าวกรมสรรพากรจะไม่ต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งจะหมดอายุในปี 2559 มองว่าไม่ควรมีความคิดที่จะยกเลิก ต่อหรือไม่ต่ออายุในตอนนี้ เพราะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ แนวคิดการจัดเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้นอาจเหมาะสมในบางประเทศ ขึ้นอยู่กับสถานภาพของสิ่งแวดล้อมในแต่ละประเทศ ซึ่งไทยมีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก และ ตลท.ยังอยู่ในระหว่างสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งต้องสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุน ส่วนตัวมองว่าแนวคิดดังกล่าวควรชะลอไว้ก่อน และหากต้องการเก็บรายได้ให้มากขึ้น ควรเจาะช่องโหว่ของผู้มีรายได้สูงให้เต็มที่ก่อน เพราะตลาดทุนตอนนี้เป็นช่วงวางรากฐาน
ด้านนายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) กล่าวในงานสัมมนานำเสนอผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยตามโครงการ ASEAN CG Scorecard ประจำปี 2556/2557 ว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ยังคงเป็นผู้นำที่ได้คะแนนสูงสุดตามมาตรฐาน ASEAN CG Scorecard โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 75.39 คะแนน รองลงมาคือมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 71.69 และ 71.68 ตามลำดับ
ทั้งนี้ จากการจัดอันดับคะแนนของ บจ.ในภูมิภาคอาเซียนที่ทำการสำรวจในโครงการจำนวน 529 บริษัท พบว่ามี บจ.ไทย จำนวน 4 แห่ง ติด 1 ใน 10 และจำนวน 18 แห่ง ติด 1 ใน 50 ซึ่งหมวดที่ บจ.ไทยได้รับคะแนนสูงสุดคือ หมวดสิทธิ์ของผู้ถือหุ้น และการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนหมวดการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และหมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการนั้น ได้รับคะแนนเป็นอันดับสามเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ