“รีบอค”ปลื้มไทยติดท็อปทรี ปรับทั่วโลกลุยตลาดฟิตเนส
|
|
“รีบอค” ปลื้ม ไทยท็อปสสปอร์ตทำผลงานดี ติดท็อปทรีในเซาท์อีสต์อาเซียน พร้อมปรับตำแหน่งรีโพซิชันนิ่งใหม่ทั่วโลก เป็นรองเท้าฟิตเนสและออกกำลังกาย ปรับโลโก้ใหม่ ไทยประเดิมสาขาพารากอนคอนเซ็ปต์ใหม่ พร้อมลุยปีนี้เต็มอัตราศึก
นายวิจักษ์ สิริสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยท็อปสปอร์ต จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ “รีบอค” (Reebok) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับแผนการทำตลาดและกลยุทธ์ธุรกิจแบรนด์ “รีบอค” ใหม่ เพื่อเป็นไปตามนโยบายบริษัทแม่ของรีบอค ที่ได้ทำการรีโพซิชันนิ่งใหม่ให้เป็นคอนเซ็ปท์แบรนด์กีฬาออกกำลังกายและฟิตเนสโดยเฉพาะและเปลี่ยนโลโก้ใหม่เป็น “เดลต้า” จากเดิมเป็นรองเท้ากีฬาทั่วไป หรือมัลติสปอร์ตและโลโก้เดิมเรียกว่า VECTOR ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปีนี้แล้วพร้อมกันทั่วโลก โดยมีนโยบายว่า การทำตลาดควรจะมุ่งเน้นกีฬาใดกีฬาหนึ่งโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ บริษัทฯเตรียมงบประมาณเพื่อใช้ปรับเปลี่ยนร้านให้เป็นไปตามคอนเซ็ปท์ใหม่ที่เรียกว่า “ฟิตฮับ” (FitHub) ให้แล้วเสร็จทุกสาขาภายในไตรมาสแรกปีหน้าซึ่งปัจจุบันมีช่องทางจำหน่ายรวม 200 กว่าแห่ง แบ่งเป็น สแตนด์อโลน 5 แห่งคือ สยามพารากอน ซึ่งปรับเรียบร้อยแล้ว แฟชั่นไอส์แลนด์ปรับแล้ว และจะปรับต่อไปคือ เมกาบางนา เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาและจะเปิดใหม่เดือนสิงหาคมนี้ที่เซ็นทรัลศาลายา และมีชอปอินชอปอีกกว่า 50 จุด ที่เหลือเป็นร้านค้าทั่วไป
การปรับเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาดใหม่ก็สอดคล้องกับตลาดในไทยด้วยที่ปัจจุบันนีธุรกิจฟิตเนสเติบโตดีและผู้บริโภคก็หันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและเล่นฟิตเนสมากขึ้นด้วย อีกทั้งฟิตเนสในไทยก็มีการขยายสาขาจากหลายแบรนด์มากมายส่งผลให้ตลาดเติบโตดี เช่น แบรนด์ “ฟิตเนสเฟิร์สท” ในไทยมีมากถึง 22 สาขา มากที่สุดในเอเชียและยังมีแบรนด์อื่นอีกมาก
“สินค้าเราก็จะมุ่งเน้นไปที่ฟิตเนสและออกกำลังกายเท่านั้น ส่วนรองเท้ากีฬาอื่น เช่น บาสเก็ตบอล แบดมินตัน และอื่นๆ เราเลิกหมดแล้ว ซึ่งสินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย หลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนมาแล้วระยะหนึ่งพบว่าได้รับการตอบรับอย่างดี ทำให้ยอดขายโดยรวมของบริษัทฯเติบโตอย่างมากเป็นเลเลขสองหลักมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ มากกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วด้วย แม้ว่าไทยจะเผชิญกับปัญหาภาวะความขัดแย้งทางการเมือง กำลังซื้อที่ลดลงก็ตาม แต่เพราะการทำตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมายชัดเจนและการออกสินค้าใหม่ การทำตลาดต่อเนื่องทำให้เติบโตดี รวมทั้งกลยุธ์การตลาดที่เราร่วมมือกับทางฟิตเนสต่างๆเพื่อรุกตลาด”
ล่าสุดได้แต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ 2 คนซึ่งคนในวงการฟิตเนสและการออกกำลังกายรู้จักดีคือ “ดอน-ทนงศักดิ์ วงษาโสม” และ “ปุ๋ม-อรอนงค์ ทองสิริ” และทั้งสองยังได้เป็นตัวแทนของ “เลสมิลส์” (LESSMILLS) ซึ่งเป็นเจ้าของหลักสูตรการเล่นฟิตเนสที่โด่งดังของนิวซีแลนด์ ซึ่งกว่า 90% ของฟิตเนสในไทยใช้หลักสูตรจากเลสมิลลส์โดยใช้กลยุทธ์การจับมือกับฟิตเนสในการุกตลาดด้วยเช่นกัน
“รีบอคในต่างประเทศพอใจผลงานของเราที่ติดท็อปทรีในเซาท์อีสต์อาเซียนด้วย ซึ่งเขามองว่าประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก เพราะมีพื้นฐานของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีจำนวนประชากรมาก แม้ว่าจะยังมีปัญหาเรื่องการเมืองก็ตาม ซึ่งในงานเปิดตัวโลโก้และคอนเซ็ปต์ใหม่เมื่อวานนี้ ผู้บริหารสำคัญก็เดินทางมาไทยเพื่อร่วมงานด้วย 2 คนคือ นายเฮนรี่ เควก ผู้จัดการอาวุโส ด้านการจัดจำหน่ายและการขาย เซ้าท์อีสต์เอเซีย กับนายอึง ชี ลุน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย เซาท์อีสท์เอเซีย พร้อมทั้งตรวจตลาดด้วย”
นายวิจักษ์ กล่าวว่า ปีนี้เราคงรุกตลาดหนักซึ่งช่วงต้นปีเปิดสาขาไปแล้ว 6 แห่ง เช่น โอเดียนหาดใหญ่ ซูเปอร์สปอร์ตเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่และเชียงใหม่ ร้านสปอร์ตเวิลด์ห้างเมญ่าเชียงใหม่ ห้างไมค์ชอปปิ้งมอลล์และรอยัลการ์เด้นพลาซ่าที่พัทยา โดยปีนี้จะเปิดประมาณ 10 แห่ง ขณะที่ปีที่แล้วเปิดมากกว่า 30 แห่ง