'ทะเลจีนใต้' ครอบงำซัมมิตอาเซียน “ฮานอย-มะนิลา” หาแนวร่วมต้านปักกิ่ง

'ทะเลจีนใต้' ครอบงำซัมมิตอาเซียน  “ฮานอย-มะนิลา” หาแนวร่วมต้านปักกิ่ง
บรรดาผู้นำของ 10 ชาติสมาชิกสมาคมอาเซียน คล้องแขนถ่ายภาพกันตามธรรมเนียม ในพิธีเปิดการประชุมซัมมิตครั้งที่ 24 ที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของพม่า ในวันอาทิตย์ (11)
       เอเจนซีส์ – ความตึงเครียดจากกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้กลายเป็นประเด็นร้อนในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นที่พม่าเมื่อวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) โดยเวียดนามเรียกร้องการสนับสนุนจากเพื่อนบ้านในสถานการณ์การเผชิญหน้าร้ายแรงกับจีนขณะนี้ ขณะที่ฟิลิปปินส์ก็งัดข้อกับพญากรรุนแรงพอกัน ส่วนทางด้านจีนตอกกลับ ย้ำไม่ควรนำกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้มาบ่อนทำลายความสัมพันธ์อาเซียน-ปักกิ่ง 
       
        การประชุมระดับผู้นำของสมาคมอาเซียน จัดขึ้นที่กรุงเนปิดอว์ของพม่าในวันอาทิตย์ ไม่กี่วันหลังจาก 2 รัฐสมาชิกของสมาคม คือ เวียดนามและฟิลิปปินส์ ได้เกิดการเผชิญหน้ากับจีน จากการขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้
       
        สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คำแถลงร่วมของที่ประชุมซัมมิตคราวนี้ มีอันต้องออกล่าช้าไปมากแม้การหารือจะเสร็จสิ้นไปแล้วหลายชั่วโมง โดยที่แหล่งข่าวหลายรายระบุว่า เนื่องจากการจัดพิมพ์คำแถลงมีคำผิด ทำให้ต้องนำเอกสารฉบับนี้มาขอคำยืนยันจากบรรดารัฐสมาชิกอีกรอบหนึ่ง
       
        ขณะที่สำนักข่าวเอพีบอกว่า จากร่างคำแถลงปิดประชุมสุดยอดที่ตนได้รับมา ปรากฏว่าไม่มีการเอ่ยถึงจีนอย่างตรงๆ
       
        และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ โดยคำแถลงปิดประชุมซึ่งออกมาในที่สุด มีข้อความแสดงความวิตกกังวล และเรียกร้องทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการพิพาททางทะเลคราวนี้แสดงความอดทนอดกลั้น ทว่าไม่มีการอ้างถึงจีนแต่ประการใด
       
        ท่าทีของบรรดาผู้นำอาเซียนคราวนี้ สอดคล้องกับเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งได้ออกคำแถลงภายหลังการประชุมของพวกเขาในวันเสาร์ (10) โดยมีข้อความแสดง "ความกังวลอย่างจริงจังยิ่งยวดเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังดำเนินอยู่” แต่ไม่ได้ระบุชื่อประเทศจีนตรงๆ เช่นกัน
       
        กระนั้น ผู้นำของทั้งเวียดนามและฟิลิปปินส์ก็ได้ขึ้นพูดในที่ประชุมคราวนี้ โดยเรียกร้องให้เพื่อนสมาชิกสนับสนุนการรับมือกับแดนมังกร
       
        ในร่างคำปราศรัยต่อที่ประชุมซัมมิตที่เอพีได้รับมา นายกรัฐมนตรี เหวียน เติ๋น ยุ๋ง ของเวียดนาม ระบุว่า “จีนได้เคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันของตนเข้ามาในน่านน้ำของเวียดนามอย่างไร้ยางอาย โดยใช้เรือติดอาวุธและเรือทหารกว่า 80 ลำตลอดจนเครื่องบินจำนวนมากคุ้มกัน” โดยที่เรือเหล่านี้ “ได้ยิงเครื่องฉีดน้ำกำลังแรง ตลอดจนเข้าชนกระแทกบรรดาเรือบริการสาธารณะและเรือพลเรือนของเวียดนาม ทำให้เรือจำนวนมากได้รับความเสียหายและผู้คนในเรือจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ”
       
        เขายังเรียกร้องให้บรรจุความวิตกกังวลเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ เข้าไปในคำแถลงปิดการประชุมคราวนี้ด้วย
       
        ทั้งนี้ การเผชิญหน้าระหว่างจีนกับเวียดนามคราวนี้เริ่มขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม ที่บริเวณใกล้ๆ หมู่เกาะพาราเซล ซึ่งทั้งสองประเทศต่างอ้างกรรมสิทธิ์
       
        ในส่วนของ ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ ได้กล่าวก่อนเข้าประชุมซัมมิตว่า เขาตั้งใจหยิบยกประเด็นข้อพิพาททางดินแดนที่ประเทศของเขาเองมีอยู่กับปักกิ่ง ขึ้นมาพูดในที่ประชุม พร้อมกับเรียกร้องขอความสนับสนุนให้แก้ไขความขัดแย้งนี้โดยผ่านการตัดสินวินิจฉัยขององค์กรตุลาการระหว่างประเทศ
       
        ทั้งนี้ฟิลิปปินส์ได้ยื่นฟ้องจีนในเรื่องข้อพิพาทด้านเขตแดนในทะเลจีนใต้นี้ ต่อศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในกรุงเฮก ขณะที่ปักกิ่งบอกว่าไม่ยอมเข้ากระบวนการเช่นนี้ นอกจากนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มะนิลายังได้จับกุมเรือประมงจีนพร้อมลูกเรือ 11 คน ในข้อหาลักลอบจับเต่าทะเลชนิดที่เป็นสัตว์สงวนในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ แต่ทางจีนตอบโต้ว่าน่านน้ำที่เกิดเหตุเป็นดินแดนของตน พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยเรือและลูกเรือชาวจีน
 
'ทะเลจีนใต้' ครอบงำซัมมิตอาเซียน  “ฮานอย-มะนิลา” หาแนวร่วมต้านปักกิ่ง
ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ของพม่า อ่านคำแถลงปิดการประชุมซัมมิตอาเซียน ในกรุงเนปิดอว์ เมื่อวันอาทิตย์ (11)
       ในอีกด้านหนึ่ง ผู้สังเกตการณ์หลายรายมองว่า การที่ปักกิ่งตัดสินใจเคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันคราวนี้ อาจเป็นการตอบโต้การเยือนเอเชียเมื่อปลายเดือนที่แล้วของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งเขาได้ยืนยันการสนับสนุนฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นที่ต่างมีกรณีพิพาททางทะเลกับจีน
       
        จีนนั้นยืนยันเรื่อยมาว่า ต้องการแก้ไขข้อพิพาทากับประเทศเพื่อนบ้านที่มีขนาดเล็กและอ่อนแอกว่าของตน ด้วยการเจรจาแบบตัวต่อตัว ซึ่งเป็นแนวทางที่พวกประเทศคู่กรณีคัดค้าน เพราะเห็นว่าพวกตนเสียเปรียบแน่นอน โดยเฉพาะประธานาธิบดีอากีโน ของฟิลิปปินส์ ได้ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า การเจรจาทวิภาคีไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาที่ส่งผลต่อประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากการอ้างสิทธิ์ของจีนในทะเลจีนใต้
       
        ทว่า วันเดียวกันนั้น กระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำแถลงตอบโต้ว่า ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ไม่ใช่ปัญหาระหว่างจีนกับอาเซียน
       
        “ปักกิ่งคัดค้านความพยายามของบางประเทศในการใช้ประเด็นนี้บ่อนทำลายสัมพันธภาพและความร่วมมือโดยองค์รวมระหว่างจีนและอาเซียน
       
        “จีนพร้อมร่วมมือกับอาเซียนเพื่อสานต่อการดำเนินการตามปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีที่มีกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้ ที่ตกลงกันในปี 2002 เพื่อจัดการความขัดแย้งทางทะเล
       
        “และจีนหวังว่า สมาชิกอาเซียนที่เกี่ยวข้องจะเคารพและดำเนินการตามปฏิญญาดังกล่าวอย่างจริงใจ รวมทั้งร่วมสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพ ตลอดจนความมั่นคงทางทะเลในทะเลจีนใต้” คำแถลงของจีนระบุ
 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ manager.co.th ดูทั้งหมด

305

views
Credit : manager.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน