Good Morning News by กองทุนบัวหลวง 7/5/14

 General News
       
       • องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ปรับลดประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงเหลือ 3.4% จากเดิมที่ 3.6% โดยมีข้อจำกัดต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ 1) อัตราการว่างงานของหลายประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง 2) การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจกลุ่มตลาดเกิดใหม่ 3) การขยายตัวต่ำกว่าคาดของ GDP ไตรมาส 1/2557 ของสหรัฐจากสภาพอากาศเลวร้าย 4) การขึ้นภาษีขายของญี่ปุ่น 5) ภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำของยูโรโซน
       
       • มาร์กิต รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 53.1 นำโดยการขยายตัวของเยอรมนี ขณะที่สเปนและไอร์แลนด์สามารถขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการเงิน ซึ่งนับเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนกำลังฟื้นตัวในวงกว้าง
       
       • ยอดค้าปลีกยูโรโซนในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และ 0.9% เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขาย อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ
       
       • มาร์กิต รายงาน PMI ภาคบริการของอังกฤษในเดือนเม.ย.ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกันสู่ระดับ 58.7 จาก 57.6 ในเดือนมี.ค. ทั้งในส่วนกิจกรรมบริการและการจ้างงาน แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอังกฤษยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
       
       • ธ.กลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยโยบายที่ 2.5% เป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน เพื่อสนับสนุนการขยายตัวอย่างยั่งยืนของอุปสงค์ ในขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงสมดุลที่ระดับ 2-3% อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า RBA อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้นอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงกว่าเป้าหมายได้
       
       • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงาน ดัชนีภาคบริการในเดือนเม.ย. ขยายตัวสู่ระดับ 55.2 จาก 53.1 ในเดือน มี.ค. ซึ่งการขยายตัวของภาคบริการจะส่งผลดีต่อตลาดแรงงานของสหรัฐ เนื่องจากเป็นภาคที่มีการจ้างงานมากที่สุด
       
       • ธ.กลางสหรัฐ (FED) เผยว่า ธ.พาณิชย์ในสหรัฐได้ผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจและผู้บริโภคในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นประกอบกับการแข่งขันทั้งจาก ธ.พาณิชย์และสถาบันการเงินประเภทอื่นรุนแรงมากขึ้น
       
       • ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนมี.ค.ปรับตัวลดลง 3.6% สู่ระดับ 4.04 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากยอดการส่งออกเครื่องบิน ยานยนต์ และสินค้าเกษตร ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความสามารถในการผลิตพลังงานเพิ่มขึ้นทำให้สหรัฐพึ่งพานำเข้าพลังงานจากต่างประเทศลดลง
       
       • ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน มีแผนขายสินทรัพย์ของรัฐบาลระดับท้องถิ่น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและลดภาระหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นที่มีระดับสูงมากในปัจจุบัน ซึ่งจะลดความเสี่ยงที่รัฐบาลกลางจะต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือทางการเงิน
       
       • ธ. กรุงเทพ ประเมินว่า GDP ของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ระดับ 2-3% ในกรณีที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลถาวรเข้ามาบริหารประเทศได้ภายในไตรมาส 3 แต่หากยาวนานกว่านั้นเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เพียง 1-2% เท่านั้น เนื่องจากปัญหาทางการเมืองส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว ทำให้ไทยเสียโอกาสในการเป็นศูนย์กลางในการลงทุนของภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังส่งผลให้ผู้บริโภคไม่มีความมั่นใจในการจับจ่ายแม้ว่าจะมีกำลังซื้อก็ตาม
       
       Equity Market
       
       • SET Index ปิดที่ 1,404.01 จุด ลดลง -17.47จุด (-1.23%) มูลค่าซื้อขาย 27,008 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลในสถานการณ์การเมือง หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยสถานภาพนายกฯ กรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี โดยไม่ชอบในวันนี้ ซึ่งอาจเป็นชนวนก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้
       
       • ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธาน กก. ตลท. ระบุว่า กระแสเงินทุนจากต่างชาติยังมีแนวโน้มไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทนับตั้งแต่เดือน มี.ค. เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของ บจ. ไทยที่ยังคงแข็งแกร่งและมีความสามารถในการทำกำไร ในขณะที่ปัญหาทางการเมืองส่งผลกระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น
       
       สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
       
       นักลงทุนสถาบัน +170.77 ล้านบาท
       บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -292.24 ล้านบาท
       นักลงทุนต่างชาติ +366.60 ล้านบาท
       นักลงทุนทั่วไป -245.12 ล้านบาท
       
       Fixed Income Market
       
       • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.01 ถึง -0.02% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 109,863 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือน และ 6 เดือน มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท

 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ manager.co.th ดูทั้งหมด

272

views
Credit : manager.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน