“นครหาดใหญ่” ลงนาม MOU “รัฐเกดะห์” มาเลเซีย สานสัมพันธ์ 2 เมืองเตรียมรับ AEC

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เทศบาลนครหาดใหญ่ ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับเทศบาลเมืองสุไหงปัตตานี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือฉันมิตร เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือของทั้ง 2 เมือง รับประชาคมอาเซียน
       
       วานนี้ (2 พ.ค.) ห้องแกรนด์บอลรูม บี โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ เทศบาลนครหาดใหญ่ และเทศบาลเมืองสุไหงปัตตานี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ดำเนินการบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือฉันมิตร เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้ง 2 เมือง โดยมี Datuk Haji Ismail bin Haji Said (ดาโต๊ะ ฮาจจี อิสเมล บิน ฮาจจี ซาอิด) นายกเทศมนตรีเมืองสุไงปัตตานี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย และ ดร.ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) โดยมีนายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ H.E.Mohd Faizal Bin Razali (มูฮัมหมัด ไฟซอล บิน ราซาลี) กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ
       
       ดร.ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า จากการที่เทศบาลนครหาดใหญ่ และเทศบาลเมืองสุไหงปัตตานี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ได้หารือ และพิจารณาแนวทางเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพร่วมกันมาก่อนหน้าที่ วันนี้จึงได้มีการลงนามในบันทึก MOU ร่วมกันที่จะแลกเปลี่ยนและร่วมมือกันฉันมิตร เพื่อสร้างความสัมพันธ์ และความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ตลอดจนการแลกเปลี่ยน และให้ร่วมมือกันในด้านต่างๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรม ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดการภูมิทัศน์ของเมือง และการท่องเที่ยว 
       
       โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะแต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการประสานงานระหว่างกันทั้ง 2 เมือง เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินงานร่วมกัน และในโอกาสที่เทศบาลเมืองสุไหงปัตตานี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย เดินทางมาเพื่อมาลงนามในบันทึก (MOU) ในครั้งนี้ ตัวแทนจากเทศบาลเมืองสุไหงปัตตานี และตัวแทนของเทศบาลนครหาดใหญ่ ยังได้ร่วมแข่งขันกีฬากระชับมิตร (แชร์บอล ฟุตบอล และโบว์ลิ่ง) และร่วมรับฟังการบรรยายด้านการจัดการภูมิทัศน์ในเขตเมืองของเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเมือง ระหว่างประชาชนชาวไทย และชาวมาเลเซีย ในการเกื้อกูล และช่วยเหลือกันในด้านต่างๆ อันเป็นประโยชน์เพื่อการพัฒนาที่มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมในโอกาสที่ทั้ง 2 เมืองจะได้เข้าสู่ประชาคมอาเซียนในเร็วๆ นี้อีกด้วย