นายกฯไม่ร่วมวันแรงงาน แค่โพสต์FB.ให้กำลังใจ

วานนี้ (1 พ.ค.) ที่ลานพระราชวังดุสิต กระทรวงแรงงาน ร่วมกับสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย สภาองค์การลูกจ้าง สภาแรงงานอุตสาหกรรมเอกชน นำโดย นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยข้าราชการ และตัวแทนสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย ร่วมทำบุญถวายภัตตาหารเช้า พระสงฆ์ 9 รูป ก่อนการเคลื่อนขบวนเทิดพระเกียรติ 87 พรรษา เพื่อเข้าสู่ปะรำพิธีท้องสนามหลวง เพื่อวางพานพุ่มหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
           นายทวี ดียิ่ง ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2557 กล่าวปราศรัย เสนอข้อเรียกร้องวันแรงงาน จำนวน 12 ข้อ ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 อย่างเร่งด่วน ให้รัฐบาลเร่งนำ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ของผู้ใช้แรงงาน เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว และให้รัฐบาลตรากฎหมายตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงลูกจ้างที่สถานประกอบการปิดกิจการ เพื่อสร้างความมั่นคงในการทำงาน เป็นต้น ก่อนยื่นให้ปลัดกระทรวงแรงงาน นอกจากนี้มีกลุ่มแรงงานหลายกลุ่ม รวมตัวหน้ารัฐสภา ประกาศข้อเสนอวันกรรมกรสากลไปยังรัฐบาล
           ด้านนายจีรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องของแรงงาน กระทรวงรับจะไปเสนอรัฐบาลใหม่ ส่วนบางเรื่องที่ต้องแก้ข้อกฎหมายก็จะดำเนินการทันที ขณะที่การคืนสภาพให้ผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 ให้ผู้ประกันตนที่หลุดจากระบบไปแล้วนั้น เห็นด้วย แต่ต้องออกเป็น พ.ร.บ. ซึ่งเป็นอำนาจสภาผู้แทนราษฎร
       
           เมื่อเวลา15.20 น. วานนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ว่า แรงงานทุกคนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมให้ก้าวหน้า นานาประเทศจึงให้ความสำคัญกับวันนี้ เช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งได้กำหนดให้วันที่ 1 พ.ค. เป็นวันแรงงานแห่งชาติ
           ในโอกาสนี้ ดิฉันขอส่งความปรารถนาดี และความขอบคุณไปยังพี่น้องผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งครอบครัวทุกท่าน ทั้งที่อยู่ในประเทศ และต่างประเทศ ทุกท่านที่ทุ่มเทกำลังใจ กำลังกาย กำลังสติปัญญา ปฏิบัติงานในหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งแรงกำลังของทุกๆ ท่าน ล้วนมีส่วนในการขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวหน้ามาได้จนถึงทุกวันนี้ และขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ร่วมกันระลึกถึงความสำคัญ คุณค่าและคุณูปการของพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกท่านด้วยค่ะ
           ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามผลักดันนโยบายที่เป็นสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ทั้งนโยบายการเพิ่มเงินเดือน และค่าแรงขั้นต่ำ ยกระดับคุณภาพแรงงานให้มีทักษะสูงขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้แรงงานฝีมือทั้งระบบ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ และเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน พร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน สอดคล้องกับคำขวัญงานวันแรงงานปีนี้ ที่ว่า “แรงงานร้อยใจรัก ภักดีองค์ราชัน ก้าวทันประชาคมอาเซียน”
           "โอกาสนี้ ดิฉันขอให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานและครอบครัว มีสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่แข็งแรง พร้อมทั้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านมุ่งมั่นทำงาน เป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ก้าวหน้า รุ่งเรืองตลอดไปค่ะ" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ
       
       **“เหลิม”ผวาม็อบไม่ไปร่วมวันแรงงาน
       
           ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ว่า อยากไปร่วมงาน ที่สนามหลวง แต่เแรงงงานมีหลายฝ่าย เกรงจะมีม็อบมาสร้างความปั่นป่วน จนทำให้งานสะดุด จึงได้มอบหมายให้ ปลัดกระทรวงแรงงงานไปแทน แต่ขออำนวยอวยพรให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานมีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ประสบผลสำเร็จในการทำงาน และขออวยพรให้เจ้าของผู้ประกอบการ ได้รับผลกำไร เพื่อมีเงินเสียภาษีและมีเงินจ้างผู้ใช้แรงงาน
           "เพื่อนผู้ใช้แรงงาน หากรัก ชอบพรรคการเมืองใด ถึงเวลาเลือกตั้ง ขอให้ไปเลือก แต่อย่าชุมนุมประท้วง อย่าไปสร้างความวุ่นวาย บ้านเมืองจะเข้าสู่วันเวลาแห่งการเลือกตั้งแล้ว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
       
       **"มาร์ค" ห่วงคุณภาพชีวิตแรงงานไทย
       
       นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาแรงงาน ว่ายังมีหลายปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข เช่น รายได้ค่าแรงที่แม้จะมีการปรับขึ้นเป็น 300 บาท ก็เหมือนไม่ใช่ 300 บาทจริง เพราะมีปัญหาถูกตัดเรื่องสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ออกไป เพราะผู้ประกอบการก็มีปัญหาเช่นกัน ขณะที่คุณภาพชีวิต และภาวะเศรษฐกิจของผู้ใช้แรงงานยังไม่ดีขึ้น เพราะปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น เช่น ค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า ที่มีการปรับขึ้นค่าเอฟที ล้วนเป็นปัญหากระทบกับผู้ใช้แรงงาน และประชาชนทั่วไปด้วย
           ทั้งนี้ อยากผู้ใช้แรงงานร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้น และฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะต้องรับฟังคือ ปัญหาเรื่องระบบสวัสดิการแรงงานยังเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะระบบประกันสังคม ซึ่งแม้จะมีการพัฒนามาโดยลำดับ แต่ ยังครอบคลุมคนส่วนน้อย และ ประชาชน ที่อยู่ในระบบประกันสังคมยังมีความรู้สึกว่า ประโยชน์ที่ได้รับไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้าไป จึงควรมีการปรับปรุงการบริหารจัดการรวมทั้งการปฏิรูปให้ระบบประกันสังคมนี้ มีลักษณะการเป็นองค์กรอิสระ