ศอ.รส.ยกก้นต่างชาติ โจมตีศาล รธน. ตำหนิปลัด ยธ.ต้อนรับ “สุเทพ”
ศอ.รส.ยกรายงานมูดี้ส์ อ้างศาล รธน.วินิจฉัยการเลือกตั้งไม่ชอบด้วย กม. เป็นผลลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของไทย ตามมาด้วยแบงก์โลก คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่ำสุดในอาเซียน ตำหนิปลัดยุติธรรมต้อนรับขบวน “สุเทพ”
น.ส.สิริมา สุนาวิน คณะทำงาน ศอ.รส. แถลงผลประชุม ศอ.รส.ว่า ศอ.รส. มีข้อห่วงใยถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจากการชุมนุมของ กปปส.ที่ยืดเยื้อ โดย ศอ.รส.ได้รับรายงานว่า มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ได้ออกรายงานฉบับล่าสุดถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นผลลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของไทย และทำให้เกิดความเสี่ยงว่าภาวะชะงักงันทางการเมืองจะยืดเยื้อต่อไปอีกเป็นเวลานานจนถึงครึ่งปีหลังของปี 2557 เพิ่มความเสี่ยงด้านลบต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะมีการประท้วงที่รุนแรงในวงกว้าง
นอกจากนี้ จากรายงาน East Asia Economic Update 2014 ของธนาคารโลก ยังคาดการณ์ว่าในปี 2557เศรษฐกิจไทยจะมีการขยายตัวต่ำที่สุดในอาเซียนด้วย ศอ.รส.จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะองค์กรในกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ ควรจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดและขอเรียกร้องประชาชนไม่ให้เข้าร่วมสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดๆ ที่ขัดแย้งกันอยู่ในขณะนี้
น.ส.สิริมากล่าวอีกว่า ศอ.รส.เห็นว่าการเรียกร้องของ กปปส.ให้ข้าราชการมาเข้าร่วมเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับข้าราชการในการทำงาน เนื่องจากตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้ารการพลเรือนกำหนดให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง จึงขอตำหนินายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลาขาธิการกปปส.และพวกที่ไปปราศรัยกดดันเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และตำหนินายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธธรรม ที่ออกมาต้อนรับนายสุเทพกับพวกในลักษณะให้การรับรองเข้าข่ายการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะมีฐานะเป็นผู้บังคับบัญชากรมสอบสวนคดีพิเศษและเป็นกรรมการคดีพิเศษ ควรจะให้พนังานสอบสวนเข้าจับกุมดำเนินคดีนายสุเทพกับพวกที่ถูกดำเนินคดีพิเศษ เป็นผู้กระทำผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ และมีหมายจับ มิใช่ให้การรับรอง ดังนั้น ศอ.รส..จะเรียกปลัดกระทรวงทุกกระทรวงมาประชุมเพื่อกำชับตักเตือน และทำความเข้าใจวันที่ 17 เม.ย.เวลา 14.00 น. โดยกำหนดให้ปลัดกระทรวงมาด้วยตนเอง