“พาณิชย์” ทำพิมพ์เขียวรับ AEC ปี 58 เร่งเปิดศูนย์ช่วยธุรกิจ ตั้งเออีซี ซิตี้ พร้อมดันกองทุนช่วยผู้ประกอบการ

“พาณิชย์” ทำพิมพ์เขียวรับ AEC ปี 58 เร่งเปิดศูนย์ช่วยธุรกิจ ตั้งเออีซี ซิตี้ พร้อมดันกองทุนช่วยผู้ประกอบการ
       “พาณิชย์” เปิดพิมพ์เขียวรับ AEC เดินหน้าวางยุทธศาสตร์ดันธุรกิจไทยบุกอาเซียน เร่งตั้งศูนย์สนับสนุน 87 แห่งทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และในอาเซียนบวกจีน พร้อมดันตั้งเออีซี ซิตี้ นำร่องขอนแก่น เชียงราย สงขลา หวังขยายศูนย์กลางการค้ารับ AEC เตรียมตั้งกองทุนเออีซี ฟันด์ ช่วยธุรกิจไทยเจาะตลาดอาเซียน ยันปัญหาการเมืองไม่กระทบการเจรจาการค้าเสรี
       
       นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำพิมพ์เขียวเพื่อรองรับการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โดยได้บูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงพาณิชย์ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และในต่างประเทศเข้าด้วยกัน รวมถึงการร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อสร้างความพร้อมในการเข้าสู่ AEC โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ภาคธุรกิจไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน และมีความพร้อมในการบุกเจาะตลาด AEC ให้ได้มากที่สุด
       
       ทั้งนี้ กระทรวงฯ มีแผนที่จะจัดตั้งศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Business Support Centers) จำนวน 87 ศูนย์ ซึ่งจะตั้งอยู่ในส่วนกลางที่กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่ง สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในอาเซียนและจีนตอนใต้ คือ คุนหมิง เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียนแบบครบวงจรในทุกแง่มุม ทั้งในด้านการค้า การลงทุน เหมือนกับเจโทรโมเดลที่คอยให้การสนับสนุนนักลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศต่างๆ
       
       ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ จะผลักดันให้มีการจัดตั้งเออีซี ซิตี้ โดยเบื้องต้นจะตั้งใน 3 จังหวัดก่อน คือ ขอนแก่น เชียงราย และสงขลา เพื่อผลักดันให้เป็นศูนย์กลางในส่วนภูมิภาคที่จะรองรับการเปิด AEC เพื่อให้ศูนย์กลางธุรกิจขยายตัว ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียว
       
       สำหรับด้านการค้าชายแดน มีแผนที่จะใช้ประโยชน์จาก AEC โดยจะเพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้า ณ จุดผ่านแดน ส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้าแถบชายแดนและในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้าไทย รวมถึงการส่งเสริมให้เอกชนใช้ประโยชน์จากการรวมกลุ่มในภูมิภาค เช่น ระเบียบเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS)
       
       “ได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายตลาดของไทยในตลาด AEC ให้ได้มากที่สุด โดยมีแผนที่จะบุกตลาดอาเซียนอย่างจริงจัง จะอัดแผนสนับสนุนอย่างเต็มที่ และไม่มองอาเซียนแค่ตลาดใดตลาดหนึ่ง แต่จะมองตลาดอาเซียนเป็นตลาดเดียว ทำให้เป็นตลาดภายในของไทยที่มีประชากรรองรับถึง 650 ล้านคน” นางศรีรัตน์กล่าว
       
       นางศรีรัตน์กล่าวว่า แผนระยะต่อไป กระทรวงฯ จะผลักดันให้มีการจัดตั้งกองทุนเออีซี เพื่อใช้ในการพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยบุกเจาะตลาด AEC ซึ่งจะครอบคลุมในด้านการพัฒนาผู้ประกอบการ รูปแบบธุรกิจ การพัฒนาสินค้าและบริการ และการสร้างโอกาสทางการค้าในรูปแบบต่างๆ โดยเบื้องต้นมีแนวคิดที่จะหางบประมาณสนับสนุน 100 ล้านบาท ซึ่งได้จัดทำแผนงานคร่าวๆ ไว้แล้ว รอที่จะเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาต่อไป
       
       สำหรับแผนพัฒนาผู้ประกอบการในด้านอื่นๆ จะช่วยยกระดับและคุณภาพสินค้าและบริการของไทย การพัฒนาให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จากอี-คอมเมิร์ซในการเพิ่มช่องทางการค้าขายใหม่ๆ การสนับสนุนให้มีการเพิ่มศักยภาพด้านลอจิสติสก์การค้า เช่น คลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ด่านศุลกากร และการปรับประสานกฎระเบียบในการขนส่งและพิธีการศุลกากร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการไทย
       
       นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเพิ่มองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ โดยจะจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านข้อมูลเกี่ยวกับ AEC และมีแผนที่จะจัดให้มีการอบรมพัฒนาผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาด AEC เช่น โครงการ Young AEC Traders โครงการ OTOP Traders และโครงการสร้างนักธุรกิจมืออาชีพ เป็นต้น รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงฯ ที่มีถึง 31 ฉบับ โดยจะเร่งปรับปรุงฉบับที่ล้าสมัยก่อน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวน
       
       ส่วนการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ ทั้งในกรอบของอาเซียน และกรอบอื่นๆ เช่น ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ยืนยันว่า ปัญหาทางการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการเจรจา เพราะทีมเจรจายังทำหน้าที่เจรจาได้ เว้นแต่การลงนามในข้อตกลงบางฉบับที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากต้องรอให้ผ่านกระบวนการของรัฐสภาก่อน แต่เชื่อว่า หลังจากที่มีรัฐบาลใหม่แล้วการเจรจาหรือการลงนามในข้อตกลงก็คงทำได้ตามปกติ
 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ manager.co.th ดูทั้งหมด

212

views
Credit : manager.co.th


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน