เวียดนาม ผงาดตลาดโกโก้ใหม่โลก
ตลาดเกิดใหม่ต้องการช็อกโกแลตเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการเดิมกลับมีผลผลิตลดลง เวียดนามจึงถูกจับตามองฐานะผู้จัดหาโกโก้รายใหม่
ตลาดเกิดใหม่ต้องการช็อกโกแลตเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการเดิมกลับมีผลผลิตลดลง เวียดนามจึงถูกจับตามองฐานะผู้จัดหาโกโก้รายใหม่ความต้องการช็อกโกแลตคุณภาพสูงที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากตลาดเกิดใหม่ ทำให้เวียดนามถูกจับตามองในฐานะผู้จัดหาโกโก้รายใหม่ ในช่วงเวลาที่ผู้จัดหาดั้งเดิมอย่างไอวอรี โคสต์ มีผลผลิตลดลง เพราะต้นโกโก้อายุมาก และปัญหาอื่นๆ ที่รุมเร้าอยู่
ชาวเวียดนามรู้จักต้นโกโก้มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่ไม่เคยมองต้นไม้ชนิดนี้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจมาก่อน
ข้อมูลจากองค์การโกโก้ระหว่างประเทศ แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบัน เวียดนามผลิตโกโก้ได้เพียง 5,000 ตันต่อปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนที่ไอวอรีโคสต์ส่งออกที่เกือบ 1.4 ล้านตัน
แต่ นายกริชา ซาฟาเรียน กรรมการผู้จัดการพูราโตส แกรนด์ พาเลซ บริษัทร่วมทุนเบลเยี่ยมระบุว่า ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นถือเป็นโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมโกโก้ ในตลาดเวียดนาม โดยบริษัทของนายซาฟาเรียนนั้น เป็นผู้ผลิตรายหลักในตลาดช็อกโกแลตเวียดนาม ทั้งที่ใช้กันตามโรงแรม บริษัทขนม และบริษัทไอศกรีม ทั้งยังส่งออกช็อกโกแลต และเมล็ดโกโก้คุณภาพสูงด้วย
นายซาฟาเรียนบอกว่า เวียดนามเป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้ผลิตขนาดกลาง ในการผลิตเมล็ดโกโก้คุณภาพสูง ซึ่งเขามองว่า ตลาดสำหรับเมล็ดโกโก้ประเภทนี้จะยิ่งโตขึ้นทุกปี เพราะเกิดการขาดแคลนสินค้า ทั้งที่ความต้องการช็อกโกแลตคุณภาพมีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชีย
เขาบอกด้วยว่า เมล็ดโกโก้ของเวียดนาม มีรสชาติที่แตกต่างออกไป และค่อนข้างจะแตกต่างจากเมล็ดโกโก้ที่ปลูกในแอฟริกา ซึ่งความแตกต่างนี้ ทำให้โกโก้เวียดนามยืนอยู่ในตลาดได้
ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ราคาโกโก้ทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสต็อกที่มีอยู่ และนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมบางรายก็ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการขาดแคลนเมล็ดโกโก้มากถึง 1 ล้านตัน ภายในปี 2563
ผู้ซื้อโกโก้รายใหญ่ๆ ของโลก รวมถึงผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง "มาร์ส" ต่างต้องการให้เวียดนามปลูกเมล็ดโกโก้ที่ผ่าน "การรับรอง" คุณภาพให้มากขึ้น ซึ่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโกโก้เวียดนามของมาร์ส "นายดินห์ ไห่ หลำ" ระบุว่า เวียดนามจะมีบทบาทในการจัดหาเมล็ดโกโก้ที่ผ่านการรับรองคุณภาพให้กับมาร์ส โดยในปัจจุบันผู้ผลิตช็อกโกแลตรายนี้ได้มีการฝึกอบรมเกษตรกรท้องถิ่น ในเรื่องการปลูกโกโก้ และมีการวิจัยเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ด้วย
นอกจากเวียดนามแล้ว ยังมี อินโดนีเซีย ที่ก้าวเข้าในอุตสาหกรรมผลิตโกโก้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อีกประเทศเดียวเท่านั้น แต่อินโดนีเซียเน้นการผลิตในปริมาณมาก สำหรับตลาดล่าง
นักวิเคราะห์มองด้วยว่า อุตสาหกรรมโกโก้ของเวียดนาม ได้เดินทางมาถึงจุดที่ต้องเลือกแล้วว่า จะเป็นผู้ผลิตที่เน้นในเรื่องคุณภาพ หรือปริมาณ โดยที่ผ่านมา เวียดนามเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ส่งออกสินค้าเกษตรราคาถูกอย่าง กาแฟ เป็นผู้จัดหาเมล็ดกาแฟโรบัสตาสำหรับตลาดล่าง ในสัดส่วน 50% ของการจัดหาทั่วโลก และส่งออกปลาดุกในราคาที่ถูกมาก จนโดนสหรัฐดำเนินมาตรการลงโทษต่อต้านการทุ่มตลาดหลายครั้ง