“หม่อมอุ๋ย” แนะไทยปฏิรูป ศก. ต้องกระจายในหลายด้านเพื่อรองรับการขยายตัวอาเซียน
“ม.ร.ว.ปรีดิยาธร” แนะปฏิรูปเศรษฐกิจต้องกระจายหลายด้านรองรับการขยายตัวอาเซียน หนุนมีรถไฟรางคู่ และวางแผนทำให้จุดแข็งเป็นจุดเด่น ขณะที่ “วีระศักดิ์” อยากเห็นคู่ขัดแย้งพูดคุยกัน รัฐบาลต้องไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูป
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวในงานสัมมนาการปฏิรูปเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ทิศทางการปฏิรูปเพื่อก้าวข้ามกับดักของประเทศ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ธรรมาภิบาล จัดโดยสถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ วิทยาลัยบริหารรัฐกิจและรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โดยระบุว่า การปฏิรูปเศษฐกิจต้องศึกษาจากอดีต ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปี 2550 มีการขยายตัวจากแรงส่งเดิม แต่ในช่วงปี 2551-2557 การเติบโตของเศรษฐกิจชะลอตัว เพราะพื้นที่การขยายที่ตั้งอุตสาหกรรมจำกัด และแรงงานขาดแคลน
“เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีการแข่งขัน จะต้องใช้ข้อได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ที่ไทยเป็นศูนย์กลางในอาเซียน ด้วยการพัฒนาระบบขนส่งให้ดี มีรถไฟรางคู่เชื่อมต่อกับทุกประเทศ และต้องมีระบบการเงินที่เอื้อต่อการทำธุรกิจให้ผู้ประกอบการภาคเอกชน นอกจากนี้ ต้องเลือก และวางพื้นฐานการลงทุนให้ตรงกับจุดเเข็งของประเทศ เพื่อให้เกิดความโดดเด่น ขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มพื้นฐานรายได้ให้ประชาชน นอกเหนือจากรายได้ภาคการเกษตร ด้วยการพัฒนาเเหล่งท่องเที่ยวในชุมชน การพัฒนาธุรกิจเพื่อผลิตภัณฑ์สินค้าฝีมือของชุมนุม และการพัฒนาธุรกิจการบริการรองรับการขยายตัวของชุมชน ซึ่งทุกเรื่องสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องใช้วิสัยทัศน์ และการวางแผนกระจายงานที่ดีของผู้บริหารประเทศ”
ขณะที่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มองว่า บรรยากาศการเมืองที่ดี มีความชัดเจน จะเอื้อต่อการพัฒนา และการลงทุนในประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกัน รวมถึงต้องทำให้เกิดการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้ง เพื่อหาทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทั้งนี้ การจะปฏิรูปประเทศก่อน หรือหลังเลือกตั้งไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญมากกว่าเนื้อหา ซึ่งต้องเริ่มจากการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการก่อน และการปฏิรูปฯ รัฐบาลไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องดำเนินการ ในฐานะที่เป็นคู่ขัดแย้ง หากปล่อยให้มีคนกลางที่แท้จริงมาทำหน้าที่ โดยไม่มีวัตถุประสงค์แอบแฝง ก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ และเป็นที่ยอมรับ ที่สำคัญองค์กรที่จะปฏิรูปต้องมีเครื่องมือที่มีพลังในการทำงาน แต่ต้องไม่ผูกขาดอำนาจ และรัฐบาลมีหน้าที่ดำเนินการตามข้อเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และการเรียนรู้
ด้านนายกนก อภิรดี อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสนอแนะแนวทางการปฏิรูปด้วยธรรมาภิบาลภิวัฒน์ ว่า ต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชน สังคมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยไม่ปรับเปลี่ยน หรือแก้รัฐธรรมนูญบ่อย เพื่อให้มีบรรทัดฐานที่ชัดเจน และทำให้การทำงานมีความโปร่งใส มีความพอเพียงควบคู่กับการแข่งขัน คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ใช้หลักการยึดปฏิบัติมากกว่าพวกพ้อง แก้ปัญหาอย่างมีสติ และบริหารอย่างมีสมดุล หากทำได้จะทำให้ประเทศไม่เกิดปัญหา