อนาคตประชาคมอาเซียนกับไทย

อนาคตประชาคมอาเซียนกับไท

การเมืองไทยในช่วงนี้ ทำเอาผู้นำอาเซียนหัวปั่นไปหมด จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่นึกไม่ฝันประเทศที่เป็นผู้ก่อตั้งอาเซียนเมื่อ 47 ปีก่อนจะกลับมาสู่วังน้ำวนอีกครั้งหนึ่ง กลายเป็นสมาชิกกระจอกไปเลย ต้องขอร้องให้ผู้นำอาเซียนสนับสนุนประชาธิปไตยในไทย

               เมื่อปี 2009 ตอนประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน ต้องเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยาเพราะว่ากลุ่มหัวรุนแรงที่คัดค้าน รัฐบาลนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บุกเข้าไปที่ประชุมใหญ่ จนต้องมีการอพยพผู้นำอาเซียนออกจากที่ประชุม ตอนนี้คนไทยลืมเหตุการณ์นี้เรียบร้อยไปแล้ว

               โชดดีที่ไทยไม่ได้เป็นประธานอาเซียนในปีนี้ บรูไนในฐานะเจ้าภาพจำเป็นต้องออกแถลงการณ์ออกมาในวันที่ 16 ธันวาคม เกี่ยวกับสถานการณ์ในไทย เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาข้อยุติด้วยการหารือและใช้สันติวิธี

               ในแถลงการณ์ฉบับนี้ ยังตอกย้ำชัดเจนว่า เสถียรภาพการเมืองไทยมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการนำไปสู่ประชาคมอาเซียน ที่มีสันติภาพ มั่นคง และมั่งคั่ง ประธานบรูไนได้เวียนคำแถลงการณ์นี้ให้สมาชิกแบบเงียบๆ

               ไทยมีความสำคัญต่อการพัฒนาในอาเซียนมาก เหตุการณ์การเมืองไม่นิ่งอย่างที่เป็นอยู่ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำลายความ มั่นคงของอาเซียน ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่ไทยต้องเพิ่มความมั่นใจให้อาเซียนว่าเหตุการณ์ ครั้งนี้จะสามารถแก้ไขดำเนินลุล่วงไปให้ได้เร็วที่สุดเพราะการเมืองที่ไม่มี ข้อยุติ ทำให้บทบาทอาเซียนพลอยถูกกระทบด้วย

               ตอนนี้ไทยยังทำหน้าที่ประสานงานคู่เจรจา ระหว่างจีนกับอาเซียน ที่ผ่านมาไทยทำได้ดีเพราะสัมพันธ์จีน-อาเซียนดีขึ้นมาก จนมีการเจรจาเป็นทางการเรื่องการร่างข้อปฏิบัติที่ผลบังคับใช้ในกฎหมายใน ทะเลจีนใต้ได้

               ที่น่าเสียดายก็คือไทยเคยมีบทบาทนำในทุกๆ ด้านเกี่ยวกับอาเซียน แต่มาตอนนี้ บทบาทไทยถูกประเทศอื่นๆ เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม สิงคโปร์บดบังไปหมด ไทยเป็นจุดศูนย์กลางของอาเซียนผืนแผ่นดินใหญ่ในเอเชียอาคเนย์

               เหลือเวลาเพียง 700 กว่าวันเท่านั้น ประชาคมอาเซียนก็จะมาถึง ถ้าการเมืองไทยยังคาราคาซังแบบนี้ ประชาคมอาเซียนก็จะไม่มีความหมาย ไม่เต็มร้อย อาจจะทำให้ความเป็นปึกแผ่นของอาเซียนถูกระทบกระเทือนอีกด้วย

               ในอนาคตอันใกล้นี้ สมาชิกอาเซียนทั้งหลายกำลังพิจารณาแนวทางว่า หลังจากการเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว น่าจะมีการปฏิรูปอะไรใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพที่จะสู้กับองค์กรภูมิภาคอื่นๆ ได้

               มีหลายเรื่องที่ต้องให้ความสนใจโดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับหลักการและค่านิยม ต่างๆ ที่อาเซียนได้ยึดถือมาตลอด รวมทั้งหลักการไม่แทรกแซงกิจกรรมภายใน หรือการใช้ฉันทามติ

               เรื่องการไม่แทรกแซงภายในประเทศสมาชิกอาเซียน ต้องยอมรับว่า หลังมีกฎบัตรอาเซียนตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา อาเซียนโดยทั่วๆ ไป มีความใจกว้างมากขึ้นกว่าเดิม ในการหยิบยกประเด็นการเมืองภายในประเทศอาเซียนขึ้นมาพูดถึงหรืออ้างอิง

               ในกรณีของไทยครั้งนี้ ค่อนข้างพิเศษ รัฐบาลรักษาการยิ่งลักษณ์เรียกร้องให้อาเซียนออกแถลงการณ์มาสนับสนุนความชอบ ธรรมของรัฐบาล ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการออกแถลงการณ์ในลักษณะนี้ ในอดีตมีเหมือนกันแต่เป็นของแต่ละประเทศ

               สาเหตุหนึ่ง อาเซียนต้องออกแถลงการณ์ออกมา ลึกๆ อาเซียนเป็นห่วงกับเหตุการณ์ในบ้านเราจริงๆ การที่รัฐบาลรักษาการไทยขอร้องให้อาเซียนทำเช่นนั้นอาจจะเป็นการปูทางให้อา เซียนเข้ามามีบทบาทในการคลี่คลายและลดความตึงเครียดในสังคมที่มีความขัดแย้ง ในอนาคตได้ ประเด็นนี้ยังใหม่อยู่ คงจะมีถกเถียงกันมากขึ้นในเวทีอาเซียนตั้งแต่นี้ต่อไป

               ตราบใดการเมืองไทยยังอยู่ในภาวะวิกฤติแบบนี้ บทบาทไทยในการชงลูกและเสนอกรอบความร่วมมือใหม่ก็จะพลอยลดหายไปด้วย


ที่มา.komchadluek  
 

เครดิตและบทความเรื่องอื่นๆของ aectourismthai ดูทั้งหมด

563

views
Credit : aectourismthai


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน