" Classbook" แท็บเลตนักเรียน บริษัทเวียดนามสั่งลุย
แท็บเลตนักเรียนหรือแท็บเลตเพื่อการศึกษาอย่างในบ้านเรานั้นมีอยู่ในหลายประเทศ ส่วนใหญ่ผ่านการอุดหนุนจากรัฐบาล ทั้งแบบอุดหนุนด้วยการแจกฟรีโดยรัฐบาล หรืออุดหนุนบางส่วน แต่การพัฒนาแท็บเลตเพื่อการศึกษาโดยตรงของภาคธุรกิจดูเหมือนจะไม่เคยเห็นมาก่อน
นอกเหนือไปจากการพัฒนาตัวแอปพลิเคชั่นด้านการเรียนการสอนไม่ไกลจากบ้านเรานัก คือ ประเทศเวียดนาม เมื่อเร็ว ๆ นี้มีการเปิดตัวแท็บเลตการศึกษา Classbook ขึ้นในฮานอย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดความร่วมมือของบริษัท EDC บริษัทในเครือของ Vietnam Education Publishing House กับพันธมิตรจากเกาหลีใต้ สำหรับนักเรียนเกรด 1-12
ใน Classbook จะมีตำราและหนังสืออ้างอิงหลายร้อยเล่มสำหรับนักเรียน รวมทั้งแอปพลิเคชั่นวิชาต่าง ๆ อีกกว่า 20 แอปให้นักเรียนได้ใช้ในการเรียน อีบุ๊กเหล่านี้มีลักษณะเป็นแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่โต้ตอบกับผู้เรียนได้ ทั้งด้านเสียง วิดีโอ และการค้นหาเพิ่มเติมจากบทเรียน เชื่อมโยงเนื้อหาเข้ากับมัลติมีเดีย นอกจากนั้น ยังมีบททดสอบเพื่อการประเมินผลการเรียนของนักเรียนเองด้วย
แต่ละวิชาจะมีส่วนประกอบที่มีชีวิตชีวา เช่น วิทยาศาสตร์ มีการเชื่อมโยงกับการทดลองที่สามารถจิ้มขึ้นมาดูได้ หรือวิชาภาษาอังกฤษ ก็สามารถจิ้มเพื่อฟังเสียงอ่าน เป็นคำ เป็นประโยค หรือตลอดทั้งย่อหน้าได้ เป็นต้น
สำหรับในเวอร์ชั่นครูเพิ่มความสามารถในการค้นหาผ่านเว็บเข้าไปให้โดยไม่จำกัด และให้ครูสามารถเพิ่มบทเรียน เนื้อหา สำหรับการเรียนการสอนเพิ่มเติมเข้าไปได้
ในการเปิดตลาดครั้งนี้ของ Classbook ค่อนข้างน่าสนใจและน่าจับตาดู หากดูจากสนนราคาของมันแล้วถือว่าค่อนข้างแพงสำหรับครอบครัวโดยทั่วไปของเวียดนาม เพราะราคาเครื่องละประมาณ 6,500 บาท แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่น่าสนใจ
Classbook มีขนาดจอ 8 นิ้ว ใช้เทคโนโลยีเคลือบจอลดแสงเงา ช่วยลดแสงสะท้อนและเปิดมุมมองได้เกือบ 180 องศา แบตเตอรี่ใช้ได้นานประมาณ 8-10 ชั่วโมง
Vietnam Education Publishing House จับมือกับบริษัทเกาหลีพัฒนา Classbook และเริ่มทดสอบมาตั้งแต่ปี 2009 ในโครงการนำร่อง Classbook นำไปใช้ในโรงเรียนเกือบ 400 แห่ง ในฮานอย โฮจิมินห์ซิตี ไฮฟอง และดานัง กว่าจะออกมาเปิดตัวในตลาดจริง ๆ เอาตอนนี้
โอกาสในตลาดของแท็บเลตเพื่อการศึกษาเฉพาะจริง ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าหากดูจากระดับราคาแล้วคงต้องอยู่ในตลาดบน หรือในโรงเรียนเอกชนที่เป็นโรงเรียนของลูกคนมีฐานะ หากจะแทรกเข้าไปในตลาดโรงเรียนโดยทั่วไป อาจจะต้องทำให้ราคาถูกลงมาหรือรัฐบาลเข้าไปอุดหนุน
ที่มา : siripong@kidtalentza.com / ประชาชาติธุรกิจ