ฟิลิปปินส์ปฏิเสธส่งช้างแก่กลับมาตายในไทย

 

โจเซฟ เอสตราดา นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา ปฏิเสธส่งช้างเพศเมีย ชื่อมะลิ ที่มีอาการบาดเจ็บ มารักษาตัวในประเทศไทย อ้างเป็นเรื่องน่าอับอาย อาจถูกมองว่า แค่สัตว์ตัวเดียวไม่มีปัญญาดูแล

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ว่า นายโจเซฟ เอสตราดา นายเทศมนตรีกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของกลุ่มพิทักษ์สัตว์ พีตา ที่ให้ส่งตัว “มะลิ” ช้างเพศเมีย ที่มีอยู่เชือกเดียวในประเทศจากสวนสัตว์ในกรุงมะนิลา มายังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย โดยกลุ่มพีตา ได้รณรงค์มาเกือบ 10 ปีแล้ว ให้ย้ายช้างเพศเมีย วัย 39 ปีตัวนี้ ซึ่งเกิดในศรีลังกา จากสวนสัตว์ดังกล่าวมายังประเทศไทย พร้อมยืนยันว่า ช้างมะลิอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย และสุขภาพย่ำแย่ มีบาดแผลที่เล็บเท้าและฝ่าเท้า หากปล่อยไว้อาจถึงตายได้

นายเอสตราดา อดีตประธานาธิบดีและดาราภาพยนตร์ กล่าวว่า การส่งมะลิไปยังประเทศไทย จะสร้างความอับอายและรู้สึกอัปยศต่อประเทศ มะลิเป็นช้างเพียงเชือกเดียว หากส่งเธอไปประเทศไทย จะสร้างความอับอายขายขี้หน้า ซึ่งมันหมายความว่า พวกเราไม่มีปัญญาเลี้ยงดูแค่สัตว์ตัวเดียว

มะลิ ช้างเพศเมีย ซึ่งปกติแล้วเป็นสัตว์สังคมที่มีความเฉลียวฉลาด ถูกเลี้ยงมาอย่างโดดเดี่ยวนานกว่า 30 ปีแล้ว ทางพีตา จึงเสนอให้ย้ายไปรักษาแผลที่เท้าในศูนย์อนุรักษ์ข้างไทย แต่ทางสวนสัตว์ในกรุงมะนิลาไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่า มะลิ อาจจะล้มตายระหว่างการเดินทาง ทั้งนี้ รัฐบาลศรีลังกา ได้มอบเจ้ามะลิให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ ในช่วงปีทศวรรษที่ 1970 หลังจากที่ พ่อแม่ของมันถูกมนุษย์ฆ่าตาย ซึ่งเจ้ามะลิ อยู่ที่สวนสัตว์แห่งนี้ตามลำพังเพียงเชือกเดียวมาโดยตลอดตั้งแต่บัดนั้น

 

 

ที่มา : เดลินิวส์