ภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศคู่เจรจาอาเซียนได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประชุมประจำปีครั้งที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ พร้อมขึ้นทะเบียนภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่น เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมไม่ใช่มรดกโลกทางธรรมชาติ โดยอธิบายว่า ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น 3,776 เมตรแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่คนรู้จักมากที่สุด ภาพยอดเขาฟูจิที่มีหิมะปกคลุมได้สร้างแรงบันดาลใจให้ศิลปินและกวีมากมาย อีกทั้งภูเขาลูกนี้ยังเป็นเป้าหมายของนักเดินทางมาหลายร้อยปี ความน่าเกรงขามของรูปทรงและความคุกรุ่นของภูเขาในอดีต นำไปสู่การประกอบศาสนกิจซึ่งเชื่อมโยงลัทธิชินโต ศาสนาพุทธ คน และธรรมชาติ เข้าด้วยกัน
ภูเขาไฟฟูจิเป็นสถานที่ที่ 17 ของญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกสถานที่อื่นๆ ที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นมรดกโลก ประกอบด้วยเมืองโบราณอะกาเดซในไนเจอร์ ซึ่งเป็นประตูสู่ทะเลทราย สถานีล่าปลาวาฬอ่าวแดงของชาวบาสก์ในแคนาดา พื้นที่ทำนาข้าวแบบขั้นบันไดของชาวหวงเหอ ฮั่น ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีที่ยอดเยี่ยมในการปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม โดยบูรณาการการทำเกษตรเข้ากับระบบจัดการน้ำ
นอกจากนี้แหล่งโบราณคดีอัล ซูบาราห์ของกาตาร์ และเมืองท่าประวัติศาสตร์เลวูกาของฟิจิ ยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเป็นครั้งแรก รวมทั้งภูเขาเอตนาของอิตาลี ป้อมปราการบนภูเขาแห่งราชสถานในอินเดีย และทะเลทรายนามิบ
ล่าสุดโบราณสถานในเมืองแกซอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเบาของเกาหลีเหนือ และมีซากปราสาท มานวอลแด รวมถึงซากกำแพง อายุ 700 ปี ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก นับเป็นมรดกโลกแห่งที่ 2 ในเกาหลีเหนือ รองจากสุสานโคดูเรียวในกรุงเปียงยาง
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์